โปรแกรม AestheFill Collagen Biostimulator ฮีโร่ที่จะมาฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างภายใน เน้นการปรับผิวให้ดูอ่อนเยาว์ตามกลไกธรรมชาติในร่างกาย งานนี้ใครอยากหน้าเด็กต้องไม่พลาด! เพราะ Doctor Mek Clinic เราได้เตรียมข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับ AestheFill ว่าช่วยอะไร เหมาะกับใครบ้าง ฉีดตรงไหนได้บ้าง การเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างของผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูคอลลาเจนตัวอื่น ๆ รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วก่อนอื่นเราไปเริ่มทำความรู้จักกันก่อนค่ะว่าผลิตภัณฑ์นี้คืออะไร
โปรแกรม AestheFill คืออะไร
โปรแกรม AestheFill คือ ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูคอลลาเจนในรูปแบบฉีดเข้าสู่ผิว ซึ่งมีส่วนประกอบหลักของ PDLLA หรือชื่อเต็ม Poly-D-L-Lactic Acid ซึ่งเป็นสารที่ได้รับการพัฒนามาจากสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ผ่านการะบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “BPM หรือ Biodegradable polymer microparticles” จนได้สาร PDLLA ที่เป็นนวัตกรรม The New Generation of Biostimulator ที่มีประสิทธิภาพ เข้ากันได้ดีกับร่างกายคนเรา สามารถย่อยสลายได้เอง เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยฟื้นฟูเส้นใยคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) และอิลาสติน
อย่างที่บอกนะคะว่า สาร PDLLA ได้รับการพัฒนาจนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ จนทำให้มีจุดเด่นตรงที่สามารถเติมเต็มผิวได้ในหลายบริเวณ และยังช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงสุขภาพดีจากภายในไปพร้อม ๆ กันได้ ฉีดแล้วไม่เสี่ยงต่อการเกิดก้อน หรือ Nodule จึงให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ
กระบวนการทำงานของ PDLLA
ด้วยโครงสร้างของอนุภาค PDLLA ที่มีลักษณะเป็นทรงกลม ภายในมีรูพรุนเหมือนกับฟองน้ำ (Sponge Form) ทำให้มีความหนาแน่นค่อนข้างสูง ทำหน้าที่ในการดึงเซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของคอลลาเจนและอิลาสติน ให้เข้ามายึดติดกับ PDLLA จนก่อให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ โดยเมื่อคอลลาเจนเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ผิวอิ่มฟู เพิ่มปริมาตรในชั้นผิว ทำให้ผิวแน่น แข็งแรง มีความยืดหยุ่น ช่วยยกผิวที่เคยหย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น และยังช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลงค่ะ
หลังฉีดโปรแกรม AestheFill แล้ว ผิวจะได้รับการเติมเต็มวอลลุ่มในบริเวณที่ซูบตอบได้เลย ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบขึ้น ริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ได้รับการเติมเต็มให้ตื้นขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ 1 สัปดาห์ คนไข้อาจสังเกตว่าวอลลุ่มที่เคยเกิดขึ้นลดลงได้เล็กน้อย นั่นเป็นเพราะสารน้ำต่าง ๆ ที่ผสมในตัวยาถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นกระบวนการปกติค่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 สัปดาห์ สาร PDLLA จะเริ่มออกฤทธิ์ทำให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวค่อย ๆ มีความอิ่มฟู ริ้วรอยจางลง ร่องลึกตื้นขึ้น ผิวเฟิร์มกระชับ และคุณภาพผิวโดยรวมดีขึ้นเรื่อย ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไปตามธรรมชาติค่ะ
โปรแกรม AestheFill ช่วยเรื่องอะไร
- ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) และอิลาสตินได้อย่างต่อเนื่อง
- ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยืดหยุ่น พร้อมกับเติมเต็มผิวให้อิ่มฟู เพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่ซูบตอบ
- ปรับผิวให้อ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ยกกระชับผิว
- ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้นดูเป็นธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไป
ใครบ้างที่เหมาะกับโปรแกรม AestheFill
- คนที่อยากเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวอิ่มฟูไปพร้อม ๆ กับการฟื้นฟูเส้นใยใต้ชั้นผิว
- คนที่มีปัญหาผิวสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย
- คนที่อยากปรับโครงสร้างผิวจากภายในแบบระยะยาว ให้ผลลัพธ์นาน ไม่ต้องฉีดบ่อย
- คนที่อยากปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูอ่อนวัย
โปรแกรม AestheFill ฉีดตรงไหนได้บ้าง
- หน้าผาก เติมเต็มผิวให้อิ่มเอิบ ลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก
- ขมับ เติมเต็มขมับตอบให้กลับมาอิ่มฟู เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้ามีมิติ
- ใต้ตา เติมเต็มผิวใต้ตาให้เรียบเนียน แก้ไขปัญหาร่องใต้ตาลึก
- หน้าแก้ม แก้ไขปัญหาแก้มตอบ เติมเต็มให้แก้มดูอิ่มเอิบ ยกกระชับกว่าที่เคย
- ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มร่องแก้ม ปรับให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
- กรอบหน้า ยกกระชับผิวย้วยหย่อนคล้อย ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น
- ลำคอ ลดเลือนเส้นริ้วรอย เพื่อผิวลำคอที่ดูเรียบเนียนและเด็กลง
คุณสมบัติเด่นของโปรแกรม AestheFill
- มีอนุภาคของสารที่สม่ำเสมอ ช่วยทำให้ยึดเกาะกับเซลล์ต่าง ๆ ได้ดี ลดโอกาสเสี่ยงจะเกิดก้อน ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และเป็นสารที่ถูกใช้แพร่หลายในวงการแพทย์
- ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ 24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย ได้ผลลัพธ์ผิวอ่อนเยาว์ในระยะยาว
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ฉีดง่าย ช่วยให้แพทย์รักษาได้ง่ายขึ้น
โปรแกรม AestheFill ราคาเท่าไหร่
สำหรับโปรแกรม AestheFill ราคาจะอยู่ที่ 12,000 บาท* ทั้งนี้ราคาอาจไม่เท่ากันหรือแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละเคส ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ โดยดูจากระดับปัญหาผิวของคนไข้, การเลือกใช้ปริมาณของตัวยา, บริเวณที่ต้องทำการฉีด รวมไปถึงโปรโมชั่นที่ทางคลินิกจัดขึ้นตามช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งหากคนไข้สนใจแนะนำให้เข้ารับการปรึกษาและประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดแบบ Case by Case กับแพทย์ได้ที่ Doctor Mek Clinic ค่ะ
เปรียบเทียบโปรแกรม AestheFill vs โปรแกรม Sculptra
ในปัจจุบัน Biostimulator มีหลากหลายตัว ทำให้เกิดความสงสัยว่าระหว่างทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้มีความเหมือนและต่างกันอย่างไรบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่าทั้ง 2 ตัวนี้ต่างก็เป็นกลุ่มที่ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนเหมือนกัน ซึ่ง โปรแกรม Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาและออกมาก่อน ส่วนโปรแกรม AestheFill เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาสาร PDLLA ต่อมาจากสาร PLLA แต่ทั้งนี้ อาจมีข้อแตกต่างกันดังนี้ค่ะ
- ส่วนประกอบหลัก : โปรแกรม Sculptra มีส่วนประกอบหลักของ PLLA ซึ่งเป็นนวัตกรรมของสารฟื้นฟูคอลลาเจนตัวแรกที่ผ่านมาตรฐาน ส่วนโปรแกรม AestheFill มีส่วนประกอบของสาร PDLLA ที่ได้รับการพัฒนามาจากสาร PLLA
- ข้อดี : โปรแกรม Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้ผิวกระชับและมีวอลลุ่มมากขึ้นจากภายใน ส่วนโปรแกรม AestheFill นั่นมีจุดเด่นตรงที่ใช้เติมเต็มได้ในหลายบริเวณ ลดโอกาสเสี่ยงการเกิดก้อน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- บริเวณที่ฉีด : โปรแกรม Sculptra สามารถฉีดได้บริเวณรอบนอกของใบหน้า เช่น ขมับ หน้าแก้ม และกรอบหน้า สำหรับโปรแกรม AestheFill นั้นสามารถฉีดได้ทั่วใบหน้าและลำคอ
- ระยะเวลาของผลลัพธ์ : โปรแกรมSculptra ให้ผลลัพธ์ 24 เดือน* และโปรแกรม AestheFill จะให้ผลลัพธ์อยู่ที่ 24 เดือน* เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
- การดูแลตัวเองหลังทำ : โปรแกรม Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ฉีดแล้วคนไข้จะต้องมีการนวดใบหน้าตามหลัก Triple 5 คือ นวดครั้งละ 5 นาที นวด 5 ครั้งต่อวัน และนวดติดต่อกัน 5 วัน ซึ่งต่างจากโปรแกรม AestheFill ตรงที่หลังฉีดแล้วจะมีการนวดหลังฉีดเพียงครั้งเดียว คนไข้ไม่ต้องกลับมานวดต่อที่บ้าน
เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ตัวอื่น ๆ
ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่า ตอนนี้กลุ่มงานผิว Collagen Biostimulator กำลังมาแรงจริง ๆ และมีผลิตภัณฑ์หลากหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งแต่ละตัวนั้น บางท่านอาจยังไม่ทราบว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และจะตัดสินใจเลือกฉีดตัวไหนดี ยังไงเดี๋ยวเราลองมาดูข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มฟื้นฟูผิวของแต่ละยี่ห้อ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจตามตารางด้านล่างนี้เลยค่ะ
เปรียบเทียบ 5 นวัตกรรมฟื้นฟูอลลาเจน |
|||||
|
โปรแกรม AestheFill |
โปรแกรม Sculptra |
โปรแกรม Gouri |
โปรแกรม Ultracol |
โปรแกรม Radiesse |
สารประกอบหลัก |
PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) |
PLLA (Poly-L-Lactic Acid) |
PCL (Polycaprolactone) |
PDO (Polydioxanone) |
CaHA (Calcium Hydroxylapatite) |
กลไกการทำงาน |
ตัวสารเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายฟื้นฟู คอลลาเจนตามธรรมชาติ |
ตัวสารเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายฟื้นฟู คอลลาเจนตามธรรมชาติ |
ตัวสารเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายฟื้นฟู คอลลาเจนตามธรรมชาติ |
ตัวสารเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายฟื้นฟู คอลลาเจนตามธรรมชาติ |
ตัวสารเข้าไปเกาะติดกับ Fibroblast เพื่อเสริมโครงสร้างให้ดีขึ้น และฟื้นฟูคอลลาเจนรอบ ๆ โครงสร้าง |
ข้อดี |
ฟื้นฟูคอลลาเจนและสามารถเติมเต็มผิวได้ในหลายบริเวณ |
ฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์จากภายใน และเพิ่มวอลลุ่ม |
เป็นไหมน้ำที่กระจายตัวได้ดี ไม่ต้องฉีดหลายจุด |
เป็นไหมชนิดแรกที่นำวัสดุ PDO โมเลกุลทรงกลมเล็กระดับนาโน มาใช้เพื่อยกแก้มที่หย่อนคล้อย |
เห็นความเปลี่ยนแปลงได้เลยหลังฉีด |
บริเวณที่ฉีด |
ทั่วใบหน้าและลำคอ |
ขมับ, หน้าแก้ม, กรอบหน้า
ยกเว้น กลางหน้า เช่น หน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, แถวจมูก, รอบดวงตา |
ทั่วใบหน้า ลำคอ และหลังมือ |
ทั่วใบหน้า ลำคอ และหลังมือ |
ทั่วใบหน้า ลำคอ และหลังมือ
ยกเว้น ระหว่างคิ้ว, จมูก, รอบปาก |
เหมาะกับใคร |
คนที่มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวไม่มีวอลลุ่ม |
คนที่มีผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวโทรม ขาดน้ำ |
คนที่มีริ้วรอยแห่งวัย ผิวหย่อนคล้อย ขาดน้ำ ผิวโทรม |
คนที่มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย ผิวหมองคล้ำ |
คนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป มีผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวโทรมไม่สดใส |
เห็นผลเมื่อไหร่ |
เริ่มเห็นผลใน 2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 เดือน |
เริ่มเห็นผลใน 2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 เดือน |
เห็นผลใน 1-2 สัปดาห์ |
เห็นผลใน 2-4 สัปดาห์ |
เริ่มเห็นผลใน 2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 เดือน |
ระยะเวลาของผลลัพธ์ |
24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
6-12 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
6-8 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
12-24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) |
จำนวนการฉีดที่แนะนำ |
ฉีด 2-3 ครั้ง ทุก 4-6 สัปดาห์ |
ฉีด 2-3 ครั้ง ทุก 4-6 สัปดาห์ |
ฉีด 3 ครั้ง ทุก 4 สัปดาห์ |
ฉีด 3 ครั้ง ทุก 4-6 สัปดาห์ |
ฉีด 2-3 ครั้ง ทุก 4-6 สัปดาห์ |
การดูแลหลังทำ |
นวดได้เลยหลังฉีด เพียงครั้งเดียว
|
นวด 5 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 5 นาที นวดติดกัน 5 วัน |
ไม่ต้องนวด |
ไม่ต้องนวด |
ไม่ต้องนวด |
Tips จาก Doctor Mek Clinic |
ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไปตามกระบวนการปรับโครงสร้างเส้นใยผิวในร่างกาย |
ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไปตามกระบวนการปรับโครงสร้างเส้นใยผิวในร่างกาย |
ผลลัพธ์อาจอยู่ได้น้อยกว่า จึงควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงผลลัพธ์ได้นาน |
ผลลัพธ์อาจอยู่ได้น้อยกว่า จึงควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงผลลัพธ์ได้นาน |
อาจมีข้อจำกัดในการใช้กับบริเวณที่ผิวบาง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน |
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการนี้
- ในบริเวณที่จะทำการฉีด หากมีบาดแผลที่ผิวหนัง มีอาการอักเสบติดเชื้อ หรือมีรอยช้ำ รอยไหม้ ควรรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีก่อนทำการฉีด หรือหากไม่แน่ใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
- แนะนำให้เข้ารับการตรวจวิเคราะห์ปัญหาผิวจากแพทย์
- หากคนไข้มีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยา หรือประวัติการทำหัตถการอื่น ๆ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน
- ควรงดการรับประทานยา, วิตามิน และอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด มีผลต่อการเกิดอาการฟกช้ำได้ง่าย เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, สารสกัดจากใบแปะก๊วย, น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เป็นต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการนี้
- ก่อนเข้ารับบริการ 1-3 วัน แนะนำให้งดการดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและทำความสะอาดผิวหน้าในวันที่เข้ารับบริการนี้
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการนี้
- หลังเข้ารับบริการใน 2-3 ชั่วโมง คนไข้สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ปกติ
- หลังฉีดอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นมีอาการบวม แดง มีรอยช้ำได้เล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะหายได้เองใน 1-2 วัน
- คนไข้สามารถใช้การประคบเจลเย็นเพื่อลดอาการบวม รวมถึงสามารถรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้ โดยหลังจาก 24 ชั่วโมงไปแล้วให้เปลี่ยนเป็นการประคบอุ่นแทน
- ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดและความร้อน
Before-After รีวิวโปรแกรม AestheFill
จากการเปรียบเทียบภาพก่อนและหลังทำโปรแกรม AestheFill จะเห็นได้ว่าหลังทำไปแล้ว 3 สัปดาห์ ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ใบหน้าแลดูเรียบเนียน ริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ที่เคยปรากฏก็ดูตื้นขึ้น (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)
โปรแกรม AestheFill รีวิวจากผู้มาใช้บริการจริง
ภาพเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่เคยเข้ารับบริการโปรแกรม AestheFill ที่มารีวิวบอกต่อความประทับใจหลังใช้บริการ ที่นอกจากจะได้ผลลัพธ์ของสุขภาพผิวที่ดูดีขึ้นกลับไปแล้ว ก็ยังประทับใจถึงการบริการของ Doctor Mek Clinic
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรม AestheFill
เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ แนะนำให้ฉีด 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างในการฉีดต่อครั้งประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือตามที่แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสมในแต่ละราย
เมื่อฉีดครบตามจำนวนครั้งแล้ว จะให้ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) หลังจากนี้ คนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการ Maintain ผลลัพธ์ของการรักษาให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง คงผิวที่อ่อนวัยได้ในระยะยาวค่ะ
ไม่อันตรายค่ะ เนื่องจากสาร PDLLA มีการใช้ในวงการแพทย์มาอย่างยาวนานแล้ว สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เหลือสิ่งตกค้าง แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความรู้ในการรักษา รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีการนำเข้ามาอย่างถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ตามมา
สำหรับผลข้างเคียงหลังฉีด ในบางรายอาจมีรอยแดง อาการบวม มีรอยช้ำ ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ค่ะ โดยอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายได้เองใน 1-2 วัน ซึ่งในระหว่างนี้สามารถใช้วิธีประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม จากนั้นเปลี่ยนมาประคบอุ่นเพื่อบรรเทาอาการช้ำ รวมถึงสามารถรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้ตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ
โปรแกรม AestheFill ราคาเพียง 20,000 บาท ซึ่งค่าบริการนี้อาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยแะพทย์จะเป็นผู้ประเมินแบบ case by case จากปัจจัยของสภาพผิวและความกังวลของผู้เข้ารับริการ หากใครสนใจสามารถเข้ามาให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นก่อนได้เลยค่ะ
สรุป
โปรแกรม AestheFill อีกหนึ่งนวัตกรรมที่โดดเด่นที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดก้อนหลังฉีด ปรับโครงสร้างผิวภายในให้กลับมาแข็งแรง คงผลลัพธ์ได้ในระยะยาว ไม่ต้องกลับมาฉีดบ่อย เหมาะสำหรับคนที่อยากหน้าเด็ก อยากเติมเต็มผิวไปพร้อม ๆ กับปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ส่วนใครที่ยังมีข้อสงสัยหรือยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับเราไหม ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอได้ที่ Doctor Mek Clinic ทุกสาขา หรือสะดวกแอดไลน์ทักแชทเพื่อพูดคุยสอบถามได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)