โปรแกรม AestheFill

AestheFill Program

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

โปรแกรม AestheFill เสริมโครงสร้างผิวให้ดูอ่อนวัยกว่าที่เคย

โปรแกรม AestheFill Collagen Biostimulator ฮีโร่ที่จะมาฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างภายใน เน้นการปรับผิวให้ดูอ่อนเยาว์ตามกลไกธรรมชาติในร่างกาย งานนี้ใครอยากหน้าเด็กต้องไม่พลาด! เพราะ Doctor Mek Clinic เราได้เตรียมข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับ AestheFill ว่าช่วยอะไร เหมาะกับใครบ้าง ฉีดตรงไหนได้บ้าง การเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่างของผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูคอลลาเจนตัวอื่น ๆ รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วก่อนอื่นเราไปเริ่มทำความรู้จักกันก่อนค่ะว่าผลิตภัณฑ์นี้คืออะไร

โปรแกรม AestheFill คืออะไร

โปรแกรม AestheFill คืออะไร

โปรแกรม AestheFill คือ ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูคอลลาเจนในรูปแบบฉีดเข้าสู่ผิว ซึ่งมีส่วนประกอบหลักของ PDLLA หรือชื่อเต็ม Poly-D-L-Lactic Acid ซึ่งเป็นสารที่ได้รับการพัฒนามาจากสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ผ่านการะบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “BPM หรือ Biodegradable polymer microparticles” จนได้สาร PDLLA ที่เป็นนวัตกรรม The New Generation of Biostimulator ที่มีประสิทธิภาพ เข้ากันได้ดีกับร่างกายคนเรา สามารถย่อยสลายได้เอง เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยฟื้นฟูเส้นใยคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) และอิลาสติน

อย่างที่บอกนะคะว่า สาร PDLLA ได้รับการพัฒนาจนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ จนทำให้มีจุดเด่นตรงที่สามารถเติมเต็มผิวได้ในหลายบริเวณ และยังช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงสุขภาพดีจากภายในไปพร้อม ๆ กันได้ ฉีดแล้วไม่เสี่ยงต่อการเกิดก้อน หรือ Nodule จึงให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ

กระบวนการทำงานของ PDLLA

กระบวนการทำงานของ โปรแกรม AestheFill

ด้วยโครงสร้างของอนุภาค PDLLA ที่มีลักษณะเป็นทรงกลม ภายในมีรูพรุนเหมือนกับฟองน้ำ (Sponge Form) ทำให้มีความหนาแน่นค่อนข้างสูง ทำหน้าที่ในการดึงเซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของคอลลาเจนและอิลาสติน ให้เข้ามายึดติดกับ PDLLA จนก่อให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ โดยเมื่อคอลลาเจนเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ผิวอิ่มฟู เพิ่มปริมาตรในชั้นผิว ทำให้ผิวแน่น แข็งแรง มีความยืดหยุ่น ช่วยยกผิวที่เคยหย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น และยังช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลงค่ะ

หลังฉีดโปรแกรม AestheFill แล้ว ผิวจะได้รับการเติมเต็มวอลลุ่มในบริเวณที่ซูบตอบได้เลย ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบขึ้น ริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ได้รับการเติมเต็มให้ตื้นขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ 1 สัปดาห์ คนไข้อาจสังเกตว่าวอลลุ่มที่เคยเกิดขึ้นลดลงได้เล็กน้อย นั่นเป็นเพราะสารน้ำต่าง ๆ ที่ผสมในตัวยาถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นกระบวนการปกติค่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 สัปดาห์ สาร PDLLA จะเริ่มออกฤทธิ์ทำให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวค่อย ๆ มีความอิ่มฟู ริ้วรอยจางลง ร่องลึกตื้นขึ้น ผิวเฟิร์มกระชับ และคุณภาพผิวโดยรวมดีขึ้นเรื่อย ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไปตามธรรมชาติค่ะ

โปรแกรม AestheFill ช่วยเรื่องอะไร

  • ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) และอิลาสตินได้อย่างต่อเนื่อง
  • ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยืดหยุ่น พร้อมกับเติมเต็มผิวให้อิ่มฟู เพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่ซูบตอบ
  • ปรับผิวให้อ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ยกกระชับผิว
  • ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้นดูเป็นธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไป

ใครบ้างที่เหมาะกับโปรแกรม AestheFill

  • คนที่อยากเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวอิ่มฟูไปพร้อม ๆ กับการฟื้นฟูเส้นใยใต้ชั้นผิว
  • คนที่มีปัญหาผิวสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย
  • คนที่อยากปรับโครงสร้างผิวจากภายในแบบระยะยาว ให้ผลลัพธ์นาน ไม่ต้องฉีดบ่อย
  • คนที่อยากปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูอ่อนวัย

โปรแกรม AestheFill ฉีดตรงไหนได้บ้าง

โปรแกรม AestheFill ฉีดบริเวณไหน
  • หน้าผาก เติมเต็มผิวให้อิ่มเอิบ ลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก
  • ขมับ เติมเต็มขมับตอบให้กลับมาอิ่มฟู เพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้ามีมิติ
  • ใต้ตา เติมเต็มผิวใต้ตาให้เรียบเนียน แก้ไขปัญหาร่องใต้ตาลึก
  • หน้าแก้ม แก้ไขปัญหาแก้มตอบ เติมเต็มให้แก้มดูอิ่มเอิบ ยกกระชับกว่าที่เคย
  • ร่องแก้ม ช่วยเติมเต็มร่องแก้ม ปรับให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
  • กรอบหน้า ยกกระชับผิวย้วยหย่อนคล้อย ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น
  • ลำคอ ลดเลือนเส้นริ้วรอย เพื่อผิวลำคอที่ดูเรียบเนียนและเด็กลง

คุณสมบัติเด่นของโปรแกรม AestheFill

  • มีอนุภาคของสารที่สม่ำเสมอ ช่วยทำให้ยึดเกาะกับเซลล์ต่าง ๆ ได้ดี ลดโอกาสเสี่ยงจะเกิดก้อน ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
  • ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และเป็นสารที่ถูกใช้แพร่หลายในวงการแพทย์
  • ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ 24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย ได้ผลลัพธ์ผิวอ่อนเยาว์ในระยะยาว
  • เป็นผลิตภัณฑ์ที่ฉีดง่าย ช่วยให้แพทย์รักษาได้ง่ายขึ้น

โปรแกรม AestheFill ราคาเท่าไหร่

สำหรับโปรแกรม AestheFill ราคาจะอยู่ที่ 12,000 บาท* ทั้งนี้ราคาอาจไม่เท่ากันหรือแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละเคส ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ โดยดูจากระดับปัญหาผิวของคนไข้, การเลือกใช้ปริมาณของตัวยา, บริเวณที่ต้องทำการฉีด รวมไปถึงโปรโมชั่นที่ทางคลินิกจัดขึ้นตามช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งหากคนไข้สนใจแนะนำให้เข้ารับการปรึกษาและประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดแบบ Case by Case กับแพทย์ได้ที่ Doctor Mek Clinic ค่ะ

เปรียบเทียบโปรแกรม AestheFill vs โปรแกรม Sculptra

ในปัจจุบัน Biostimulator มีหลากหลายตัว ทำให้เกิดความสงสัยว่าระหว่างทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้มีความเหมือนและต่างกันอย่างไรบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่าทั้ง 2 ตัวนี้ต่างก็เป็นกลุ่มที่ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนเหมือนกัน ซึ่ง โปรแกรม Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาและออกมาก่อน ส่วนโปรแกรม AestheFill เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาสาร PDLLA ต่อมาจากสาร PLLA แต่ทั้งนี้ อาจมีข้อแตกต่างกันดังนี้ค่ะ

  • ส่วนประกอบหลัก : โปรแกรม Sculptra มีส่วนประกอบหลักของ PLLA ซึ่งเป็นนวัตกรรมของสารฟื้นฟูคอลลาเจนตัวแรกที่ผ่านมาตรฐาน ส่วนโปรแกรม AestheFill มีส่วนประกอบของสาร PDLLA ที่ได้รับการพัฒนามาจากสาร PLLA
  • ข้อดี : โปรแกรม Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้ผิวกระชับและมีวอลลุ่มมากขึ้นจากภายใน ส่วนโปรแกรม AestheFill นั่นมีจุดเด่นตรงที่ใช้เติมเต็มได้ในหลายบริเวณ ลดโอกาสเสี่ยงการเกิดก้อน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • บริเวณที่ฉีด : โปรแกรม Sculptra สามารถฉีดได้บริเวณรอบนอกของใบหน้า เช่น ขมับ หน้าแก้ม และกรอบหน้า สำหรับโปรแกรม AestheFill นั้นสามารถฉีดได้ทั่วใบหน้าและลำคอ
  • ระยะเวลาของผลลัพธ์ : โปรแกรมSculptra ให้ผลลัพธ์ 24 เดือน* และโปรแกรม AestheFill จะให้ผลลัพธ์อยู่ที่ 24 เดือน* เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
  • การดูแลตัวเองหลังทำ : โปรแกรม Sculptra เป็นผลิตภัณฑ์ที่ฉีดแล้วคนไข้จะต้องมีการนวดใบหน้าตามหลัก Triple 5 คือ นวดครั้งละ 5 นาที นวด 5 ครั้งต่อวัน และนวดติดต่อกัน 5 วัน ซึ่งต่างจากโปรแกรม AestheFill ตรงที่หลังฉีดแล้วจะมีการนวดหลังฉีดเพียงครั้งเดียว คนไข้ไม่ต้องกลับมานวดต่อที่บ้าน

เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Collagen Biostimulator ตัวอื่น ๆ

ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่า ตอนนี้กลุ่มงานผิว Collagen Biostimulator กำลังมาแรงจริง ๆ และมีผลิตภัณฑ์หลากหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งแต่ละตัวนั้น บางท่านอาจยังไม่ทราบว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และจะตัดสินใจเลือกฉีดตัวไหนดี ยังไงเดี๋ยวเราลองมาดูข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มฟื้นฟูผิวของแต่ละยี่ห้อ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจตามตารางด้านล่างนี้เลยค่ะ

เปรียบเทียบ 5 นวัตกรรมฟื้นฟูอลลาเจน

 

 โปรแกรม AestheFill

โปรแกรม Sculptra

โปรแกรม Gouri

โปรแกรม

Ultracol 

โปรแกรม

Radiesse

สารประกอบหลัก

PDLLA

(Poly-D, L-Lactic Acid)

PLLA

(Poly-L-Lactic Acid)

PCL

(Polycaprolactone)

PDO

(Polydioxanone)

CaHA

(Calcium Hydroxylapatite)

กลไกการทำงาน

ตัวสารเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายฟื้นฟู

คอลลาเจนตามธรรมชาติ

ตัวสารเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายฟื้นฟู

คอลลาเจนตามธรรมชาติ

ตัวสารเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายฟื้นฟู

คอลลาเจนตามธรรมชาติ

ตัวสารเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ร่างกายฟื้นฟู

คอลลาเจนตามธรรมชาติ

ตัวสารเข้าไปเกาะติดกับ Fibroblast เพื่อเสริมโครงสร้างให้ดีขึ้น และฟื้นฟูคอลลาเจนรอบ ๆ โครงสร้าง

ข้อดี

ฟื้นฟูคอลลาเจนและสามารถเติมเต็มผิวได้ในหลายบริเวณ

ฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์จากภายใน และเพิ่มวอลลุ่ม

เป็นไหมน้ำที่กระจายตัวได้ดี ไม่ต้องฉีดหลายจุด

เป็นไหมชนิดแรกที่นำวัสดุ PDO โมเลกุลทรงกลมเล็กระดับนาโน มาใช้เพื่อยกแก้มที่หย่อนคล้อย

เห็นความเปลี่ยนแปลงได้เลยหลังฉีด

บริเวณที่ฉีด

ทั่วใบหน้าและลำคอ

ขมับ, หน้าแก้ม, กรอบหน้า

 

ยกเว้น กลางหน้า เช่น หน้าผาก, ระหว่างคิ้ว, แถวจมูก, รอบดวงตา

ทั่วใบหน้า ลำคอ และหลังมือ

ทั่วใบหน้า ลำคอ และหลังมือ

ทั่วใบหน้า ลำคอ และหลังมือ

 

ยกเว้น ระหว่างคิ้ว, จมูก, รอบปาก

เหมาะกับใคร

คนที่มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวไม่มีวอลลุ่ม

คนที่มีผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวโทรม ขาดน้ำ

คนที่มีริ้วรอยแห่งวัย ผิวหย่อนคล้อย ขาดน้ำ ผิวโทรม

คนที่มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย ผิวหมองคล้ำ

คนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป มีผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น มีริ้วรอย ร่องลึก ผิวโทรมไม่สดใส

เห็นผลเมื่อไหร่

เริ่มเห็นผลใน 2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 เดือน

เริ่มเห็นผลใน 2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 เดือน

เห็นผลใน 1-2 สัปดาห์

เห็นผลใน 2-4 สัปดาห์

เริ่มเห็นผลใน 2 สัปดาห์ และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 เดือน

ระยะเวลาของผลลัพธ์

24 เดือน*

(ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

24 เดือน*

(ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

6-12 เดือน*

(ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

6-8 เดือน*

(ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

12-24 เดือน*

(ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

จำนวนการฉีดที่แนะนำ

ฉีด 2-3 ครั้ง

ทุก 4-6 สัปดาห์

ฉีด 2-3 ครั้ง

ทุก 4-6 สัปดาห์

ฉีด 3 ครั้ง

ทุก 4 สัปดาห์

ฉีด 3 ครั้ง

ทุก 4-6 สัปดาห์

ฉีด 2-3 ครั้ง

ทุก 4-6 สัปดาห์

การดูแลหลังทำ

นวดได้เลยหลังฉีด เพียงครั้งเดียว

 

นวด 5 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 5 นาที นวดติดกัน 5 วัน

ไม่ต้องนวด

ไม่ต้องนวด

ไม่ต้องนวด

Tips จาก Doctor Mek Clinic

ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไปตามกระบวนการปรับโครงสร้างเส้นใยผิวในร่างกาย

ผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไปตามกระบวนการปรับโครงสร้างเส้นใยผิวในร่างกาย

ผลลัพธ์อาจอยู่ได้น้อยกว่า

จึงควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงผลลัพธ์ได้นาน

ผลลัพธ์อาจอยู่ได้น้อยกว่า

จึงควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงผลลัพธ์ได้นาน

อาจมีข้อจำกัดในการใช้กับบริเวณที่ผิวบาง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการนี้

  • ในบริเวณที่จะทำการฉีด หากมีบาดแผลที่ผิวหนัง มีอาการอักเสบติดเชื้อ หรือมีรอยช้ำ รอยไหม้ ควรรักษาอาการดังกล่าวให้หายดีก่อนทำการฉีด หรือหากไม่แน่ใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • แนะนำให้เข้ารับการตรวจวิเคราะห์ปัญหาผิวจากแพทย์
  • หากคนไข้มีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยา หรือประวัติการทำหัตถการอื่น ๆ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน
  • ควรงดการรับประทานยา, วิตามิน และอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด มีผลต่อการเกิดอาการฟกช้ำได้ง่าย เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, สารสกัดจากใบแปะก๊วย, น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เป็นต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการนี้
  • ก่อนเข้ารับบริการ 1-3 วัน แนะนำให้งดการดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าและทำความสะอาดผิวหน้าในวันที่เข้ารับบริการนี้

การดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการนี้

  • หลังเข้ารับบริการใน 2-3 ชั่วโมง คนไข้สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ปกติ
  • หลังฉีดอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นมีอาการบวม แดง มีรอยช้ำได้เล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติ และจะหายได้เองใน 1-2 วัน
  • คนไข้สามารถใช้การประคบเจลเย็นเพื่อลดอาการบวม รวมถึงสามารถรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้ โดยหลังจาก 24 ชั่วโมงไปแล้วให้เปลี่ยนเป็นการประคบอุ่นแทน
  • ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงหลังฉีด ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดและความร้อน
ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติในการเข้ารับบริการนี้

Before-After รีวิวโปรแกรม AestheFill

จากการเปรียบเทียบภาพก่อนและหลังทำโปรแกรม AestheFill จะเห็นได้ว่าหลังทำไปแล้ว 3 สัปดาห์ ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ใบหน้าแลดูเรียบเนียน ริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ที่เคยปรากฏก็ดูตื้นขึ้น (*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับรายบุคคล)

โปรแกรม AestheFill รีวิวจากผู้มาใช้บริการจริง

ภาพเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่เคยเข้ารับบริการโปรแกรม AestheFill ที่มารีวิวบอกต่อความประทับใจหลังใช้บริการ ที่นอกจากจะได้ผลลัพธ์ของสุขภาพผิวที่ดูดีขึ้นกลับไปแล้ว ก็ยังประทับใจถึงการบริการของ Doctor Mek Clinic

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรม AestheFill

เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ แนะนำให้ฉีด 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างในการฉีดต่อครั้งประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือตามที่แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสมในแต่ละราย

เมื่อฉีดครบตามจำนวนครั้งแล้ว จะให้ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 24 เดือน* (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) หลังจากนี้ คนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการ Maintain ผลลัพธ์ของการรักษาให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง คงผิวที่อ่อนวัยได้ในระยะยาวค่ะ

ไม่อันตรายค่ะ เนื่องจากสาร PDLLA มีการใช้ในวงการแพทย์มาอย่างยาวนานแล้ว สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เหลือสิ่งตกค้าง แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความรู้ในการรักษา รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีการนำเข้ามาอย่างถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ตามมา

สำหรับผลข้างเคียงหลังฉีด ในบางรายอาจมีรอยแดง อาการบวม มีรอยช้ำ ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ค่ะ โดยอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายได้เองใน 1-2 วัน ซึ่งในระหว่างนี้สามารถใช้วิธีประคบเย็นใน 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดอาการบวม จากนั้นเปลี่ยนมาประคบอุ่นเพื่อบรรเทาอาการช้ำ รวมถึงสามารถรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้ตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ

โปรแกรม AestheFill ราคาเพียง 20,000 บาท ซึ่งค่าบริการนี้อาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยแะพทย์จะเป็นผู้ประเมินแบบ case by case จากปัจจัยของสภาพผิวและความกังวลของผู้เข้ารับริการ หากใครสนใจสามารถเข้ามาให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาเบื้องต้นก่อนได้เลยค่ะ

สรุป

โปรแกรม AestheFill อีกหนึ่งนวัตกรรมที่โดดเด่นที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดก้อนหลังฉีด ปรับโครงสร้างผิวภายในให้กลับมาแข็งแรง คงผลลัพธ์ได้ในระยะยาว ไม่ต้องกลับมาฉีดบ่อย เหมาะสำหรับคนที่อยากหน้าเด็ก อยากเติมเต็มผิวไปพร้อม ๆ กับปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ส่วนใครที่ยังมีข้อสงสัยหรือยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับเราไหม ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอได้ที่ Doctor Mek Clinic ทุกสาขา หรือสะดวกแอดไลน์ทักแชทเพื่อพูดคุยสอบถามได้ที่ LINE : @doctormekclinic (มี @ นำหน้า)

เว็บไซด์ doctormekclinic.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซด์เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะของใคร ของผู้ใช้งาน

บันทึก