ลดน้ำหนัก IF ลดความอ้วนทันใจ ถ้าไม่ตามใจปาก

ลดน้ำหนัก IF ลดความอ้วนทันใจ ถ้าไม่ตามใจปาก

เทคนิคการลดน้ำหนัก if (Intermittent Fasting) คืออะไร

เทคนิคการลดน้ำหนัก if (Intermittent Fasting) คืออะไร

สำหรับคำถามที่ว่า IF หรือ Intermittent Fasting คืออะไรนั้น หากสรุปให้เข้าใจแบบสั้นๆก็ คือ การกินโดยจำกัดช่วงเวลา ซึ่งเทคนิคการลดน้ำหนักแบบ IF นี้ ได้ความนิยมจากคนทั่วโลกมากว่า 10 ปีแล้ว โดยในไทยเราจะรู้จัก Intermittent Fasting ราวๆ 6 ปีที่แล้วค่ะ 

แรกเริ่มเดิมทีนั้น วิธีลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting นี้เป็นแนวคิดของทีมแพทย์จากเมือง ชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Dr.Joseph Mercola เป็นหัวหอกในการผลักดัน และเป็นสนับสนุนแนวคิด Intermittent Fasting ให้ได้รับความนิยมนั่นเอง ซึ่งก็คือการลดน้ำหนักด้วยการกินอาหารเป็นช่วงเวลา และปล่อยให้ร่างกายหยุดรับอาหารเป็นช่วงเวลาเช่นเดียวกัน

หลักการของการลดความอ้วน if (Intermittent Fasting)

หลักการของการลดความอ้วน if (Intermittent Fasting) 

หลักการทำงานของวิธีการลดน้ำหนักด้วยเทคนิค IF (Intermittent Fasting) คือการควบคุมแคลอรี และจำกัดเวลาในการทานอาหาร โดยจะมีเทคนิค และวิธีในการปฏิบัติที่แตกต่างกันไปตามสูตรค่ะ แต่สำหรับวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการจำกัดเวลาสำหรับทานอาหารให้เหลือเพียง 8 ชั่วโมง และต้องทำการอดอาหารให้ได้อย่างน้อย 16 ชั่วโมงค่ะ

เช่น หากกำหนดช่วงเวลาที่สามารถทานอาหารไว้ที่ 8:00-16:00 และหลังจาก 16:00 เป็นต้นไปคือช่วงของการงดอาหารค่ะ ซึ่งจะสามารถทานได้เพียงแต่น้ำเปล่า หรือกาแฟ ชาที่ไม่ใส่น้ำตาล รวมถึงกลุ่มสารให้ความหวานแทนน้ำตาล และที่ให้พลังงานสูงอย่างครีมเทียม ในช่วงงดอาหารด้วยค่ะ เพราะหากรับประทานเข้าไปอาจจะเป็นการกระตุ้นระบบภายในร่างกายของเราให้เกิดความหิวและอยากน้ำตาลได้ค่ะ

สรุปคือ การอดอาหารแบบนี้ IF สูตรนี้ จะทำให้งดอาหารไปหนึ่งมื้อ นั่นก็คือ มื้อเย็นนั่นเองค่ะ โดยวิธีนี้จะไปสนับสนุนแนวคิดการลดน้ำหนักที่ว่า การงดอาหารไปหนี่งมื้อนั้น เท่ากับลดปริมาณแคลอรีที่เกินความจำเป็นเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง และหากทำได้ติดต่อกันยังไงน้ำหนักก็จะลดลงแน่นอนค่ะ 

โดยหลักการของ Intermittent Fasting ก็มีเงื่อนไขสำคัญอยู่ 3 อย่างก็ คือ

  1. ต้องงดอาหาร 1 มื้อในแต่ละวัน
  2. หลีกเลี่ยงการกินอาหารมื้อดึก
  3. กินอาหารตามปกติในช่วงเวลาไดเอต 8 ชั่วโมง

ปัญหาที่คนส่วนใหญ่พบระว่างลดความอ้วนแบบ IF

ปัญหาที่คนส่วนใหญ่พบระว่างลดความอ้วนแบบ IF 

1.ในช่วง 16 ชั่วโมง ของอดอาหารระว่างทำ IF นั้น จะรู้สึกหิวทรมานมากค่ะ เนื่องจากเป็นการฝืนระบบการทำงานร่างกายนั้นเองค่ะ 

2.สำหรับบางคนในช่วงอด 16 ชม. เกิดทนไม่ไหว จนต้องหาตัดสินใจหาอะไรเพื่อกินรองท้อง แต่ปรากฏเมื่อกินอะไรไปเพียงเล็กน้อย ร่างกายกลับเกิดการหิวมากกว่าเดิม เนื่องจากระบบของร่างกายรับรู้ได้ว่ามีกินอาหาร ร่างกายจะกระตุ้นให้กินมากขึ้นเพื่อเก็บสะสมพลังงานกรณีต้องอดอาหารอีกนั่น สุดท้ายก็จบที่กินโควต้านั่นเองค่ะ

3.เมื่อถึงช่วงเวลา 8 ชม. ที่สามารถกินได้ตามปกติ ก็จะทำให้เกินการหิวอยากรุนแรงจนทำให้กินเกินความจำเป็นนั่นเองค่ะ 

4.เกิดการหงุดหงิดอย่างรุนแรง ที่คนทั่วไปเข้าใจว่าคืออาการ โมโหหิวค่ะ ซึ่งอันเป็นผลมาจากระบบของร่างกายต้องการพลังงานแต่เรา 

5.อาการมึนหัวคิดไม่ออก ซึ่งคล้ายๆ กับอาการขาดน้ำตาลค่ะ และในกรณีที่อันตรายที่สุด อาจจะส่งผลให้เป็นลมได้เลยทีเดียวค่ะ

จากอาการทั้งหมดที่กล่าวถึงข้างนี่เอง ที่ทำการลดน้ำหนักแบบ IF ไม่ได้ผลตามที่ต้องการค่ะ เพราะเมื่อไม่สามารถอดทนต่อความหิวได้ ก็ทำให้ต้องกินเพื่อไม่ให้ทรมาน แต่ก็กลับทำให้ร่างกายรับ แคลอรี่ เข้าไปเกินความจำเป็นนั่นเองค่ะ จนทำให้กลับมาอ้วนกว่าเดิมอีกค่ะ

สำหรับท่านที่สนใจ ตัวช่วยในการลดน้ำหนักแบบ IF โดยไม่ที่ต้องทุกข์ทรมานกับความหิว สามารถอ่านได้ที่นี่ค่ะ > Slim Life Program จบทุกปัญหา บอกลาความอ้วน 

Intermittent Fasting ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม

Intermittent Fasting ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม ?

         จากกระแสของชาวโซเชียลรวมถึงเซเลบหลายๆ ท่านที่อ้างว่าใช้วิธี IF ลดน้ำหนักแล้วเห็นผลได้จริง จนเกิดเป็นที่สนใจในกลุ่มคนที่อยากลดความอ้วนขึ้นมาเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นคำถามที่ว่า มันจะทำให้ลดได้จริงๆ หรอ ?

มาดูกันค่ะ ว่าเทคนิค IF ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือเปล่า ?

จากผลวิจัยพบว่า ในช่วงที่ร่างกายรู้สึกหิว ร่างกายของเราจะทำการหลั่งโกรทฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกมา และในช่วงเวลาเดียวกันหากร่างกายของเราไม่ได้รับพลังงานจากภายนอก (การกินอาหาร) จะทำให้อินซูลินหลั่งออกมาน้อย ส่งผลให้ร่างกายดึงไขมันซึ่งเป็นพลังงานสะสม ออกมาใช้เผาผลาญแทนนั่นเองค่ะ จึงเป็นส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้นั่นเองค่ะ

       นอกจากนี้ในส่วนของนักโภชนาการ ยังเผยอีกว่า แม้วิธีลดน้ำหนัก Intermittent Fasting จะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง แต่ก็อาจไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักที่ยั่งยืน 

เพราะหัวใจสำคัญของการลดน้ำหนัก ก็การควบคุมพลังงานที่รับเข้าร่างกาย ให้น้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายใช้ออกไป ซึ่งหากไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง 

การลดน้ำหนัก IF ก็อาจไม่ได้ต่างจากวิธีลดน้ำหนักในแบบอื่น ๆ

การลดน้ำหนัก IF ก็อาจไม่ได้ต่างจากวิธีลดน้ำหนักในแบบอื่น ๆ

       ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยค่ะ ซึ่งหาก คุณสามารถอดทน และมีความสุขกับการลดน้ำหนักด้วย Intermittent Fasting ก็สามารถใช้วิธีนี้ลดน้ำหนักตลอดไปได้ 

แต่สำหรับคนที่ต้องฝืนทำ IF จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ในช่วงแรกก็อาจจะได้ผล แต่เมื่อไม่ได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง น้ำหนักก็จะกลับขึ้นมาเหมือนเดิมค่ะ

การลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting ดีจริงไหม

การลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting ดีจริงไหม ?

แม้ว่าการลดน้ำหนักแบบ IF นั้นจะไม่ส่งผลเสียโดยตรงต่อร่างกายของเราก็ตาม แต่ในทางกลับกันการลดน้ำหนักแบบ IF กลับส่งผลต่อสภาวะจิตใจแทนค่ะ เพราะเมื่อเราพยายามที่จะอดอาหาร หรือพยายามจะไม่กิน แต่ทั้งที่ร่างกายของเรากลับเรียกร้องให้เราต้องกิน จนก่อให้เกิดความหิวมาก ๆ ขึ้นมา อาจจะส่งผลให้เกิดการหงุดหงิด โดยไม่รู้ตัวได้ค่ะ หรือเกิดอาการมึนหัว คิดอะไรไม่ออกเนื่องจากร่างกายขาดน้ำตาลนั่นเองค่ะ

ข้อดีของการลดน้ำหนัก IF

ข้อดีของการลดน้ำหนัก IF    

  • วิธีการลดน้ำหนัก ที่สามารถควบคุมปริมานแคลอรีได้ดี
  • การทำ IF มีเทคนิคและสูตรให้เลือกหลากหลาย แต่วิธีที่ได้รับความนิยมก็คือจำกัดเวลาทานอาหาร 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง
  • การลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting (IF) ไม่จำเป็นต้องอดอาหารมากเกินไป หรืองดขนมหวาน (แต่ต้องจำกัดปริมานการกินแทน) อันเป็นของโปรดของหลายๆ คน

ข้อเสียของการลดน้ำหนัก IF

ข้อเสียของการลดน้ำหนัก IF

แต่สำหรับหลายคนที่อาจทำแล้วประสบผลสำเร็จบ้าง บางคนน้ำหนักไม่ลดบ้าง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยดังนี้

1.กรณีอดอาหารมากเกินไป โดยในช่วงที่ทานได้ 8 ชั่วโมง ควบคุมอาหารมากเกินไป อาจจะทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จนส่งผลให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะจำศีล ลดการเผาผลาญลง และเก็บสะสมพลังงานมากขึ้นจนกลายเป็นไขมัน

2.หากทานมากเกินไป มักจะเกิดขึ้นในคนที่มักจะทานอาหารไว้เผื่อในช่วงที่ต้องอด เช่น ทานข้าว 2-3 จาน เพื่อที่ตอนอดอาหารจะได้ไม่รู้สึกหิว ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอยากมากค่ะ เพราะในช่วงอดอาหารไม่ว่ากรณีใดๆ ร่างกายของเราก็จะเกิดความหิวอยู่ และหากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะส่งผลให้เกิดเป็นไขมันสะสมมากขึ้นนั่นเอง

3.อาการขาดน้ำตาล มักจะเกิดในกลุ่มที่ชอบรับประทานของหวานเป็นประจำ เนื่องจากในช่วงการลดน้ำหนักแบบ IF (Intermittent Fasting) จะมีช่วงที่ไม่สามารถทานน้ำตาล เพื่อไม่ให้เกิดกระตุ้นความหิวได้นั่นเอง ในกลุ่มของคนที่ชอบกินของหวานอาจจะทำให้เกิดอาการติดหวาน Sugar Addict ซึ่งในกลุ่มนี้มีโอกาสที่อาการ จะหิวมาก อ่อนเพลียเหมือนขาดพลังงาน แล้วก็จะจบด้วยการกิน และอาจจะทานเยอะกว่าปกติด้วย ซึ่งผลของอาการอยากน้ำตาลนั้นจะส่งอยู่ประมาน 7-12 วันเลยทีเดียวค่ะ

4.นอนดึกในคนกลุ่มที่เข้านอนดึกมีความเสี่ยงในความอ้วนง่ายอยู่แล้ว เนื่องจากระบบฮอร์โมนที่ซ่อมแซมร่างกาย และระบบความอิ่มในร่างกายจะรวนทำให้คนนอนดึกไม่สามารถอดอาหารได้ต้องกินอาหารหวาน และนำไปสู่ความอ้วน ซึ่งเวลาเข้านอนปกติไม่ควรเกิน 22:00

Intermittent Fasting กินอะไรได้บ้าง

Intermittent Fasting กินอะไรได้บ้าง

         ตามเทคนิคแล้วในส่วนของการกินนั้น ไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้อย่างตายตัวค่ะ ซึ่งระบุไว้เพียงว่าไม่ควรกินมากเกินกว่าปกติค่ะ ทำให้สามารถกินอะไรก็ได้ที่อยากกินนั่นเองค่ะ 

แต่ถ้าจะให้ดีนักโภชนาการก็แนะนำว่า ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และแร่ธาตุจากผักหรือผลไม้ เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่เกิดการขาดสารอาหารนั่นเองค่ะ

เว็บไซด์ doctormekclinic.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซด์เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะของใคร ของผู้ใช้งาน

บันทึก