ในที่สุดก็เข้าหน้าหนาวแล้วนะคะ ถึงแม้ว่าหนาวสุดในไทยจะเป็นในบีทีเอส หรือจะในออฟฟิศที่ใดก็ตามค่ะ แต่ก็ยังถือว่าประเทศเราได้เข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการแล้วค่าาาาาา ส่วนสิ้นปีนี้ใครมีแพลนจะจับมือใครไปเค้าท์ดาวน์ที่ไหน แอดก็ขอแสดงความอิจฉาด้วยนะคะ แต่เอ๊ะ พอพูดถึงเรื่องมือแล้วล่ะก็ ไม่อยากปล่อยผ่านไปเลยค่ะ ทุกคนคะ ดูแลมือตัวเองกันดีแล้ว หรือยังเอ่ย ? อากาศแห้งแบบนี้อย่าปล่อยให้ มือเหี่ยว แล้วพลาดไปให้ผู้จับเชียวนะคะ มาเทคแคร์มือกันด่วนเลยค่ะ
เคยรู้สึกไม่มั่นใจกันไหมคะ หน้าตึง แต่หลังมือดันเหี่ยวย่น มันช่างผกผันอะไรอย่างนี้ ! เวลาจะหยิบจะจับอะไร ก็กลัวคนเค้าจะรู้อายุจริงจากมือกันหมด หรืออยากถ่ายรูปของกินในมือขึ้นมา ก็ต้องเลี่ยงไม่ให้ถ่ายติดมือเจ้ากรรม เกิดมาเป็นมือ มันช่างน่าเศร้าเสียจริงๆ นะคะ หมดกันความมั่นใจ นั่นแหละค่ะ อย่างว่าเราใช้มือทำอะไรต่อมิอะไรตั้งเยอะแยะมากมาย แถมไม่ค่อยได้ดูแลมันอีก พอเมื่อเวลาผ่านไปจะสัมผัสได้เลยว่า มือเริ่มแห้งกร้าน มีรอยเหี่ยวย่น และคนไหนที่อายุมากขึ้น ก็จะเริ่มมีจุดด่างดำบริเวณหลังมือ แลดูไม่งามเอาเสียเลยใช่ไหมคะ ดังนั้นก็ต้องไม่ลืม หมั่นดูแลเอาใจใส่มือกันนิดนึงนะคะ
วันนี้แอดมินเลยได้คัดสูตรพิเศษ แก้มือเหี่ยว มาให้สาวๆ ได้ลองนำไปใช้ตามกันดูค่ะ และเพื่อให้สามารถดูแลให้ตรงจุดที่สุด งั้นมาดูกันก่อนว่า มีปัจจัยหลักๆ อะไรบ้างนะที่ส่งผลให้มือของเรานั้น เหี่ยวแห้งเหมือนมือคุณยายไปซะแล้ว..
ปัจจัยที่ทำให้ “ มือเหี่ยว ” เป็นคุณป้า
- อากาศแห้ง และแสงแดด
ยิ่งอากาศแห้ง ยิ่งทำให้น้ำที่อยู่ใต้ผิวของเราระเหยออกไป ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งลอกได้ง่าย แม้แต่แสงแดด ที่นอกจากจะทำให้ผิวคล้ำเสียแล้ว ยังทำให้ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ค่ะ
- อาบน้ำร้อน
การอาบน้ำร้อนทำให้น้ำมันใต้ผิวหนังถูกชะล้างออกมากเกินไป จึงทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น และผิวแห้งตึงได้ค่ะ
- สารเคมีต่างๆ
การสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ส่งผลให้สาวแม่บ้านแม่เรือนอย่างเราๆ มือแห้งกร้าน หรือลอกอย่างรุนแรงได้ค่ะ
- ขัดผิวมากเกินไป
การขัดหรือสครับนั้น ดีต่อผิวของเราก็จริง หากเราทำบ่อยจนเกินไป ก็เป็นการทำร้ายผิวได้เช่นกัน เพราะมันทำให้ผิวไวต่อแสงแดดกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวเป็นกระแดดได้ค่ะ
- อายุมากขึ้น
เมื่อคนเราอายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตคอลลาเจน อีลาสติน และไฮยาลูโรนิคแอซิด ใต้ชั้นผิวน้อยลงค่ะ พอขาดเส้นใยเหล่านี้ก็จะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียน หรือแม้แต่ปัจจัยบางอย่างก็ทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนน้อย ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือความเครียด เป็นต้นค่ะ
“ มือกระดูก เส้นเอ็นขึ้น ดูเซ็กซี่จัง.. แต่อ้าว! นี่มัน มือผู้หญิง หรอกหรือ !? ”
เดี๋ยวจะหาว่า บุลลี่ ผู้หญิงมือแมนๆ กันเสียหมด จริงๆหลังมือที่เห็นเป็นเส้นเลือด หรือเป็นกระดูกชัดๆ มันก็ดูเซ็กซี่ไปอีกแบบนะคะ ไม่ว่ากันเนอะ แต่สิ่งสำคัญเลย ไม่ว่าเราจะมีมือแบบไหน ขอเพียงดูแลไม่ให้มือหยาบกร้าน หรือแห้งแตกจนเลือดซิบก็เพียงพอแล้วค่ะ แอดมินจึงขอรวบรวมสูตร แก้มือเหี่ยวย่น มาไว้กันตรงนี้เลยนะคะ ใครอยากมือสวยตามไปดูโลดด
สูตรพิเศษแก้ “ มือเหี่ยว ”
- ช่วยให้ ‘ เต่งตึง ’
น้ำมันมะพร้าว หลายๆ คนรู้อยู่แล้วว่าน้ำมันมะพร้าวมีสรรพคุณดูแลผิวพรรณได้อย่างครบวงจร และแน่นอนว่ามันยังช่วยลดเลือนริ้วรอยให้หลังมือเราได้อีกด้วยค่ะ โดยการนำน้ำมันมะพร้าวมาทาบนหลังมือ และนวดเป็นวงกลมประมาณ 10 นาที ซึ่งเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดี และหากทำเป็นประจำ จะทำให้ผิวกระชับเต่งตึงได้ค่ะ
ไข่ขาว+น้ำผึ้ง เอาเฉพาะส่วนไข่ขาวแยกออกมา ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน จากนั้นนำมาทาบนหลังมือทิ้งให้แห้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด วิตามินบีและวิตมินอี ในไข่ขาวจะช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวได้อย่างดีเลยค่ะ
- ช่วยกำจัด ‘ จุดด่างดำ กระ ’
มะนาว + น้ำตาลทราย ผ่ามะนาวครึ่งลูกผสมกับน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา จากนั้นนำมาขัดและนวดเป็นวงกลมบนหลังมือ แล้วล้างออกด้วยน้ำสบู่ให้สะอาด ความเข้มข้นของน้ำมะนาวจะช่วยกำจัดจุดด่างดำและสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก และน้ำตาลจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้มือเนียนนุ่ม เรียบเนียนมากยิ่งขึ้นค่ะ
ครีมกันแดด เพราะแสนยานุภาพของแดดประเทศเรานั้นช่างร้ายกาจเหลือเกินค่ะ ดังนั้นโล่ป้องกันผิวอย่าง ครีมกันแดด จึงควรมีส่วนผสมที่ครอบคลุมทั้งรังสี UVA และ UVB อีกทั้งควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30+ ขึ้นไป จึงจะสามารถพิทักษ์ผิวจากแสงแดดตัวร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ และที่สำคัญการทาครีมกันแดดจะช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และป้องกันไม่ให้รอยจุดต่างๆ กลับมาทักทายได้อีกค่ะ
- ช่วยให้ ‘ เนียนนุ่ม ’
แฮนด์ครีม เดี๋ยวนี้แฮนด์ครีมมีขายกันจนละลานตาไปหมด อาจจะต้องถามว่า “ มีสูตรไหน กลิ่นใดบ้างที่ในโลกนี้ยังไม่ได้ทำ ” เรียกได้ว่าแทบไม่มีจริงๆ ค่ะ อีกทั้งวิตามินเอย สารสกัดต่างๆเอย สารพัดสิ่งที่นำมาใส่กันตู้มๆ ทาแล้วมือไม่นุ่มไม่หอมให้มันรู้กันไปค่ะ ใครไม่มีต้องรีบหามาพกติดตัวกันซักหลอดแล้วนะคะ
ทรีทเม้นท์พาราฟิน การทำพาราฟิน คือ การเอามือแช่ลงไปในขี้ผึ้งที่ละลายอุ่นๆ ความร้อนจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ไม่หดเกร็ง และช่วยให้เล็บที่เคยเปาะบางกลับมาแข็งแรงได้ค่ะ อีกทั้งวิธีนี้ยังช่วยบำบัดในคนที่มีอาการมือล็อคให้ดีขึ้นได้ด้วยค่ะ แต่สำหรับใครที่มีงบไม่มากนัก แนะนำให้ทาครีม แล้วสวมถุงมือเข้านอนค่ะ เมื่อทำแบบนี้เป็นประจำ จะช่วยให้มือเนียนนุ่มได้เหมือนกันค่ะ
- ช่วยเพิ่มความ ‘ ชุ่มชื้น ’
น้ำนม หลังจากสครับหลังมือกันไปแล้ว มาคืนความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยน้ำนมกันเถอะค่ะ โดยการแช่มือของเราลงไปในน้ำนมประมาณ 15-20 นาที น้ำนมจะช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น น่าสัมผัสค่ะ
- โลชั่นน้ำนม
หากใครไม่สะดวกทำวิธีข้างต้น ปัจจุบันมีโลชั่นสูตรน้ำนมในท้องตลาดมากมาย ช่วยบำรุงผิวของเราชุ่มชื้นได้เช่นกันค่ะ
- ช่วยลด ‘ เส้นเลือดปูด ’
เพิ่มน้ำหนัก คนที่มีมือกระดูก หรือเห็นเป็นเส้นเลือดชัดเจนนั้น มักจะพบได้ในสาวที่มีรูปร่างค่อนข้างผอม น้ำหนักน้อย ขอแนะนำให้ลองเพิ่มน้ำหนักสักหน่อยค่ะ จะทำให้ดูมีเนื้อมีหนังมากขึ้น การมีรูปร่างที่ดี ใช่ว่าเราจะต้องผอมแห้งเสมอไป จริงไหมคะ
สะบัดมือ ยกแขนเฉพาะท่อนล่าง แล้วสะบัดมือรัวๆ ค่ะ จะช่วยลดเส้นเลือดขอดที่ขึ้นมาบนหลังมือได้สักระยะ และช่วยคลายกล้ามเนื้อมือได้ด้วยค่ะ
สูตรเร่งรัด “ ฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว ”
อย่าได้เห็นว่าเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นไปไม่ได้อีกเลยค่ะ เพราะในตอนนี้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ ‘ ฟิลเลอร์ ’ ใช้ในการทำหัตถการบริเวณ ‘ หลังมือ ’ ได้แล้วนะคะ ซึ่งฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ฉีดบนหลังมือนั้น เป็นสาร Hyaluronic Acid (ไฮยาลูโรนิค เอซิด) ที่มีความปลอดภัยสูง และไม่ทำให้เกิดอาการแพ้แต่อย่างใดค่ะ
จุดประสงค์ของการ ฉีดฟิลเลอร์แก้มือเหี่ยว นั้นเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณอื่นเลยค่ะ คือเพื่อให้เกิดการฟื้นฟู และช่วยเติมเต็มช่องว่างที่หายไป โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใต้ชั้นผิว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้หลังการฉีดนั่นก็คือ หลังมือดูมีความอวบอิ่มขึ้น รวมทั้งเส้นเลือด และเส้นเอ็นบนหลังมือเห็นได้น้อยลง หากใครสนใจลองปรึกษากับคลินิคฟิลเลอร์ชั้นนำ ที่มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการได้เลยค่ะ
สำหรับทริค แก้มือเหี่ยว แต่ละวิธีนั้นดูเหมือนจะทำตามกันได้ไม่ยากเลยนะคะ ยากสุดก็อยู่ตรงที่ว่าเราจะเริ่มทำตั้งแต่เมื่อไร และบำรุงเป็นประจำแค่ไหน ซึ่งหากใครไม่มีเวลา แอดขอแนะนำให้ใช้เป็นแบบสูตรเร่งรัดเลยน่าจะตอบโจทย์กว่า แถมยังเห็นผลได้ทันทีหลังทำเลยทีเดียวค่ะ ส่วนหนาวนี้ใครจะไปทริปไหน ถ้าไม่อยากโป๊ะ ก็อย่าลืมบำรุงกันตั้งแต่หัวจรดเท้านะคะ แอดเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
สุดท้ายนี้ หากสนใจข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์ สามารถเข้าไปรับชมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับของคลินิกเราได้ตามช่องทางดังนี้ค่ะ Website , Facebook Page , Youtube