ไวรัส Covid-19 (อู่ฮั่น,โคโรนา) ภัยร้ายสายพันธุ์ใหม่(มฤตยูเงียบ 2020)

ไวรัสโคโรนา ภัยร้ายสายพันธุ์ใหม่ (มฤตยูเงียบ 2020) 

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

[อัพเดท] ล่าสุดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้รับชื่ออย่างเป็นทางการว่า Covid-19

นาทีนี้คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่าไวรัส Covid-19 (‘ ไวรัสอู่ฮั่น , ไวรัสโคโรนา ’) โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ 2019 Novel Coronavirus (2019-nCoV) ซึ่งความรุนแรงของเจ้าเชื้อไวรัสตัวนี้ ทำเอาคนทั่วโลกต่างพากันวิตกกังวล ถึงขั้นต้องเฝ้าระวังกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว

COVID-19 สรุป ! ทุกประเด็นสำคัญที่คุณต้องรู้  (อัพเดท 27/03/2563)

บทความนี้ แอดมินขอนำเสนอถึงประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ‘ โควิด-19 ’ โดยเนื้อหาเป็นการสรุปข้อมูลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ผู้มีประสบการณ์ ซึ่งออกมาเผยข้อมูลที่ประชาชนสามารถอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย และนำไปสู่การป้องกันที่ถูกต้อง ทั้งนี้บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ หรือบุคคลทั่วไปซึ่งทำงานในพื้นที่เสี่ยง สามารถอ่านและนำไปปฏิบัติตามได้ ..เพียงแค่ร่วมมือกัน ประเทศไทยจะรอดพ้นจากวิกฤตได้ในเร็ววันค่ะ

1.>> โรค และอาการของเชื้อ COVID-19

  • พบว่ากลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนหนุ่มสาว และมีโอกาสเสียชีวิต สูงถึง 4-14 % 
  • เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ไม่พบว่ามีอาการปอดอักเสบ หรือแสดงอาการรุนแรงเท่าผู้ใหญ่ 
  • 93% ของผู้ติดเชื้อพบว่ามีอาการน้อย และอีก 7% มีอาการมาก
  • เริ่มมีอาการในวันที่ 5 จะมีอาการไอแห้ง ไข้ขึ้น และหนักสุดในวันที่ 10 มีอาการหายใจลำบาก เหนื่อยหอบ 
  • น้ำมูกไหล มักไม่ใช่สัญญาณของการติดเชื้อไวรัสโควิด มีเพียงแค่ 4% เท่านั้น ที่พบอาการมีน้ำมูก

2.>> การติดต่อของ COVID-19

  • เชื้อไวรัสสามารถติดติดต่อได้จากการสัมผัส เช่น สัมผัส 10 วินาที มีโอกาสติด สูงถึง 70%
  • เชื้อไวรัสสามารถออกมาทางอุจจาระได้ ควรปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจาย
  • นั่งใกล้ชิดกับผู้ป่วยประมาณ 12 ชั่วโมง มีโอกาสติดผ่านทางอากาศถึง 50% ( หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เช่น ห้าง ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล สถานีขนส่ง รถโดยสารปรับอากาศ ฯลฯ )
  • ยืนหรือนั่งใกล้กันเพียง 1 เมตร มีโอกาสติดเชื้อถึง 50% หากอยู่ห่างกัน 4-5 เมตร จะไม่มีโอกาสติดเชื้อเลย ทั้งนี้ WHO ( องค์การอนามัยโลก ) แนะนำควรเว้นระยะห่างจากกันประมาณ 2 เมตร ก็เพียงพอแล้ว
  • หากไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้าช่วง T-zone ตา จมูก ปาก
  • หากไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาล ( อ้างอิงจากรายงานจีน พบผู้ป่วยประมาณ 41% ในเมืองอู่ฮั่น ติดเชื้อมาจากโรงพยาบาล )
  • บุคลากรทางการแพทย์ มีโอกาสติดเชื้อเฉลี่ย 5% (จากโอกาสติดตั้งแต่ 3-7% ) หรือ 1 ใน 20
  • แพทย์มีโอกาสเข้ารับการรักษาในห้อง ICU เทียบเท่า 1 ใน 100
  • แพทย์ที่มีอายุมาก มีโอกาสเสี่ยงมากกว่า แพทย์อายุน้อย

3.>> หน้ากากอนามัยสำหรับป้องกัน COVID-19

  • หากแพทย์สวมหน้ากากให้คนไข้ จะสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อได้ถึง 1,000 เท่า ดังนั้นควรรีบให้คนไข้สวมหน้ากากอนามัย เพียงแค่หน้ากาก Surgical mask ทั่วๆ ไป ( ที่ด้านใดด้านหนึ่งเป็นสีเขียวหรือฟ้า ) ก็สามารถลดการแพร่เชื้อได้ถึง 90% และช่วยลดความไกลของเชื้อลงไปถึง 10 เท่า
  • หน้ากากอนามัยชนิด Surgical mask สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ถึง 56%, ชนิด N95 ป้องกันได้ 66% และหน้ากากอนามัยชนิดอื่นๆ ที่ขอบหน้ากากมีรอยพับหรือมีขอบลวด เชื้อไวรัสจะเข้าได้เพียง 10%
  • หน้ากากอนามัย Surgical mask ที่มีการ ‘ติดเทปตามขอบ’ จะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ 95% ส่วน N95 หากติดเทปจะป้องกันได้ถึง 99%
  • **การติดเทปที่ขอบหน้ากากเป็นเรื่องที่สำคัญมาก** มากกว่าการเลือกใช้ N95% ที่ไม่มีการติดเทปเสียอีก
  • แนะนำเทปที่เลือกใช้ ควรเป็นชนิด Micropore เพราะผิวสัมผัสเมื่อโดนเนื้อแล้วจะไม่เจ็บเท่าเทปชนิด Transpore หรือสก๊อตเทปทั่วๆ ไป
  • หน้ากากขอบ Silicone ก็สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ดี เนื่องจากแนบไปกับใบหน้าได้
  • ควรสวม Face shield ในระหว่างทำหัตถการ
  • หากหน้ากาก N 95 ขาดแคลน สามารถนำมาฆ่าเชื้อแล้วใช้ซ้ำต่อได้ หากกลัวว่าด้านนอกหน้ากากจะปนเปื้อนเชื้อโรค สามารถสวมหน้ากากแบบ Surgical mask หรือหน้ากากผ้าธรรมดาทับอีกชั้นได้

4.>> สถานที่ / พื้นที่เสี่ยงต่อการติดต่อ COVID-19 

  • ขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ภายในลิฟต์ถือว่าเป็นจุดอันตราย เนื่องจากมีความแออัดและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ดังนั้นควรมีความระมัดระวังสูง
  • หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสสิ่งของต่างๆ โดยตรง เช่น ลูกบิดประตู ควรใช้หลัง ไหล่ ศอก เท้า หรือมีคนช่วยเปิดให้
  • ควรให้ผู้ป่วยอยู่บริเวณใกล้กับหน้าต่าง และหันพัดลมออกไปทางด้านนอกหน้าต่าง
  • ภายในห้องตรวจ ควรตั้งพัดลมบริเวณด้านหลังที่แพทย์นั่ง และหันพัดลมออกไปทางด้านนอกหน้าต่าง
  • ถ้าไม่มีห้อง Negative pressure ( ห้องแรงดันลบ ) เพียงพอ ให้ผู้ป่วยอยู่ห้องแยก โดยหันพัดลมออกไปทางหน้าต่างให้ผู้ป่วย
  • หอผู้ป่วยควรจัดแยกเป็น 2 โซน คือ
  1. โซน Contaminated พื้นที่สำหรับผู้ป่วย หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการดูแลผู้ป่วย
  2. โซน Contact พื้นที่สำหรับผู้ที่ทำงานเอกสาร หรือติดต่อประสานงาน

5.>> การฆ่าเชื้อ COVID-19

  • สบู่ ผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป สามารถทำความสะอาดสิ่งต่างๆ ได้ดี ไม่จำเป็นจะต้องใช้แอลกอฮอล์อย่างเดียว
  • หมั่นเช็ดลูกบิดประตู ราวบันได เค้าน์เตอร์ คีย์บอร์ด มือถือ ฯลฯ

 

>> สรุปแบบสั้นๆ <<

  1. หากไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงนำมือมาสัมผัสหน้า
  2. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ให้ถูกวิธี อย่างน้อยประมาณ 20 วินาที
  3. แปะเทปบริเวณขอบหน้ากากอนามัย
  4. ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีการใช้งานเป็นประจำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาทำความสะอาด
  5. หากไม่จำเป็นควรงดไปพื้นที่แออัด เช่น ห้าง โรงพยาบาล ฯลฯ
  6. ควรห่างจากผู้คนประมาณ 2 เมตร
  7. ไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน

หากเราปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นอย่างเคร่งครัด

.. เราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างแน่นอนค่ะ ..

ขอขอบพระคุณแหล่งข้อมูลจาก :

ศ.นพ.ขจรศักดิ์  ศิลปโภชากุล 

อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ อาจารย์พิเศษประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 

Facebook Page : DoDONE  

และ Intensive course for healthcare personel 

 

สำหรับมาตรการป้องกันไวรัส Covid-19 (ไวรัสอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรนา) ภายใน Doctor Mek Clinic

1.ทางคลินิกได้ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อ ทั่วทุกพื้นที่ภายในคลินิก
2.ได้จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ (แบบเซนเซอร์ ไม่ต้องสัมผัส) ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ 90% ไว้บริการค่ะ
3.ติดตั้งเครื่องอินฟราเรดโดยไม่ต้องสัมผัสเพื่อวัดอุณหภูมิแบบ non contact เพื่อตรวจสอบค่ะ
4.ทางคลินิกได้ร่วมรณรงค์ให้พนักงานทุกคนในคลินิกสวมแมสก์ 
5.นอกจากนี้ยังทำความสะอาดพื้นที่ภายในคลินิก ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกบริเวณสัมผัส ทุก 4 ชม.
6.ทางคลินิกได้ทำการคัดกรองเบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยค่ะ 

อย่าลืม กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ บ่อยๆ ด้วยนะคะ ?

ไอเดีย DIY อุปกรณ์สู้ Covid-19 ทำเองได้ไม่ง้อของแพง https://doctormekclinic.com/diy-covid-19/ ‎คลิ๊กเลยค่ะ

รายละเอียดเพิ่มเติม 

 

เอกสารรับรองสารทำความสะอาดที่ใช้ภายในคลินิก (ยาพ่นฆ่าสำหรับเชื้อ) ในมาตรการป้องกันไวรัส Covid 19

เมื่อประมาณปลายเดือน ธ.ค. 2019 พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในพื้นที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน และต่อมาได้เกิดการแพร่ระบาด ไปหลายพื้นที่ ในแถบเอเชีย จนมีผู้เสียเสียชีวิตมากกว่า 100 ราย

* อ้างอิงจากเว็บไซต์ gisanddata.maps.arcgis.com

นาทีนี้คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่า ‘ ไวรัสอู่ฮั่น ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘ ไวรัสโคโรนา ( Novel Coronavirus 2019 ) ’ อีกแล้ว เพราะความรุนแรงของเจ้าเชื้อไวรัสตัวนี้

( Covid-19 )  ไวรัสโคโรนา คืออะไร ? 

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า COVID-19 ( โควิด-19 ) เป็นไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดไปในหลายประเทศอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าโรคซาร์ SARS ที่ครั้งหนึ่งเคยระบาดไปทั่วโลกเมื่อประมาณสิบปีก่อน โดยสันนิษฐานว่าเชื้อไวรัสอาจมาจากตลาดแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่มีการซื้อขายเนื้อสัตว์ป่า หรือเนื้อสัตว์เปิบพิสดาร และปัจจุบันมีการแพร่กระจายจากคนสู่คนได้โดยผ่านทางสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น การไอ จาม น้ำลาย น้ำตา เหงื่อ เป็นต้น

โดยอาการระยะแรกของผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 (ไวรัสอู่ฮั่น , ไวรัสโคโรนา) นั้น จะเริ่มจากการเป็นไข้หวัดเพียงเล็กน้อย และเมื่อเชื้อได้ลุกลามเข้าไปยังอวัยวะภายในร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการปอดบวมอย่างรุนแรง และอาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน จนเสียชีวิตในที่สุดค่ะ 

ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้ มีต้นกำเนิดมาจากค้างคาว และกลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน ประเภท งู โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้จะเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อ ก่อนที่จะเกิดการกลายพันธุ์ จนส่งผลให้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้โดยตรง 

เอกสารอ้างอิงงานวิจัยไวรัส Covid 19 (ไวรัสอู่ฮั่น , ไวรัสโคโรนา)

 

ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกกัน เนื่องจากว่ามันเป็นเชื้อไวรัส Covid-19 เป็นชนิดเดียวกับ ไวรัสซาร์ SARS ที่ครั้งหนึ่งเคยระบาด ไปทั่วโลกเมื่อประมาณสิบปีก่อน และคร่าชีวิตคนไปเป็นจำนวนมากนั่นเองค่ะ  นาทีนี้คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่า ‘ ไวรัสอู่ฮั่น ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘ ไวรัสโคโรนา ( Novel Coronavirus 2019 ) ’ อีกแล้ว

 Time Line Covid-19 :จุดกำเนิดเชื้อไวรัส Covid-19 (ไวรัสอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรนา) มาจากไหน ?

  • “ เมืองอู่ฮั่น ” (Wuhan) จัดว่าเป็น “ ชิคาโกแห่งเอเชีย ” เพราะนอกจากจะเป็นเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ยแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการติดต่อสื่อสาร และการขนส่ง ทางภาคตะวันออกของจีนแล้ว (นอกจากนี้อู่ฮั่นยังติดอันดับเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 42 ของโลกด้วยค่ะ)
  • ในเมืองอู่ฮั่นนั้น มีตลาดแห่งหนึ่ง ชื่อว่า “ตลาดหัวหนาน” เป็นตลาดค้าส่งอาหารทะเล และขึ้นชื่อในเรื่องของตลาดค้าเนื้อสัตว์แบบเปิบพิสดาร โดยมีสัตว์พร้อมชำแหละขาย มากถึง 112 ชนิด อาทิ ค้างคาว งู จระเข้ สุนัขจิ้งจอก ซาลาแมนเดอร์ อูฐ นกยูง หรือแม้กระทั่งหมีโคอาล่าที่ติดป้ายขายกันในราคา 70 หยวน หรือราวๆ 307 บาทค่ะ
  • เมื่อประมานกลางเดือนธันวาคมปี 2019 ที่ผ่านมา เมืองอู่ฮั่น ได้พบผู้ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบ โดยไม่รู้สาเหตุ และมีอาการคล้ายไข้หวัด มีไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ 
  • พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร้านค้าเนื้อพิสดาร และลูกจ้าง รวมถึงลูกค้าที่เคยไปตลาดแห่งนี้มาก่อน 
  • หลังจากนั้น ได้มีการเก็บตัวอย่างไวรัสจากผู้ป่วย ไปทำการตรวจสอบภายในห้องแล็บ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา ได้มีประกาศอย่างเป็นทางการว่าคือ “ เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ” หรือหลายๆ คนเรียกกันว่า “ ไวรัสอู่ฮั่น ” 
  • จากการวิจัยพบว่าไวรัสชนิดนี้ มีที่มาจาก ไวรัสโคโรนาในตัวค้างคาว + ไวรัสโคโรนาที่พบในตัวงูเห่า และเกิดการติดต่อข้ามสปีชีส์จากงูเห่ามายังมนุษย์เรา จนเกิดการกลายพันธ์ุจนสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ค่ะ
  • ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น เป็นจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังพบผู้ติดเชื้อนอกประทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า และล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา โดยทั้งหมดล้วนเคยเดินไปยังเมืองอู่ฮั่นค่ะ

นาทีนี้คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่า ‘ ไวรัสอู่ฮั่น ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘ ไวรัสโคโรนา ( Novel Coronavirus 2019 ) ’ อีกแล้ว

อาการของไวรัส Covid 19 (ไวรัสอู่ฮั่น , ไวรัสโคโรนา) ?

ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจค่ะ คล้ายกับอาการที่มักจะพบได้ในคนไข้ที่มีการติดเชื้อไวรัส จากแบคทีเรีย และเชื้อรา ส่งผลให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอด และเนื้อเยื่อโดยรอบ หลักๆ มีอาการดังนี้ค่ะ

  • มีอาการเป็นไข้ ไอแห้ง เสมหะไม่มาก ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย และมีอากาศเหนื่อยหอบจากอาการปอดบวม 
  • อาการอื่นๆ ที่พบ เช่น ไอเป็นเลือด มีเสมหะ และท้องเสีย เป็นต้น
  • อาการปอดบวมจากเชื้อไวรัส มักเกิดกับปอดทั้งสองข้าง ซึ่งหากทำการ x-ray จะพบฝ้าขาวภายในปอด *มีรายงานว่าสามารถพบในผู้ป่วยที่ไม่มีไข้ด้วยเช่นกันค่ะ
  • มีอาการหายใจเหนื่อยหอบประมาณ 7-8 วัน และอาการจะเริ่มรุนแรงขึ้นจนอาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
  • ราวๆ ประมาณวันที่ 9 อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ในที่สุดค่ะ

เชื้อไวรัส Covid-19 (ไวรัสอู่ฮั่น , ไวรัสโคโรนา) ติดต่อได้อย่างไร ?

อย่างที่บอกว่า “เชื้อไวรัส Covid-19 (ไวรัสอู่ฮั่น , ไวรัสโคโรนา) ” มันสามารถติดต่อจากคนมาสู่คนได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนวัยใดก็ตาม หรือคนที่มีโรคประจำตัว ก็มีโอกาสที่จะเสี่ยงรับเชื้อไวรัสตัวนี้ได้เหมือนกันทุกคนค่ะ 

โดยเชื้อไวรัสจะติดต่อผ่านทางการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย อธิบายง่ายๆ ก็คือ 

“ หากเราโดนสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ หรือละอองจากการไอ จาม ก็มีโอกาสที่เราจะติดเชื้อต่อจากคนเหล่านั้นได้ค่ะ ”

หรือ “ การสัมผัสกับสิ่งที่ผู้ป่วยสัมผัสแล้ว ไม่จะเป็นของใช้ส่วนตัว หรือของใช้สาธารณะ เช่น ปุ่มกดลิฟท์ ราวบันได ราวรถโดยสาร มือจับประตูห้องน้ำ ฯลฯ ”

 

นาทีนี้คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่า ‘ ไวรัสอู่ฮั่น ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘ ไวรัสโคโรนา ( Novel Coronavirus 2019 ) ’ อีกแล้ว

ไวรัส Covid-19 (ไวรัสอู่ฮั่น , ไวรัสโคโรนา) รักษาได้ไหม ?

ขณะนี้ยังไม่มียาเฉพาะเจาะจงที่ใช้สำหรับการรักษา และยังไม่มีวัคซีนที่ฉีดเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาได้นะคะ ( ตามธรรมชาติโรคที่อุบัติขึ้นมาใหม่จะไม่มีวัคซีนเพื่อฉีดป้องกันได้ในทันทีทันใดค่ะ ) แต่โดยส่วนใหญ่หากเป็นแล้ว แพทย์จะทำการรักษาตามอาการ ประคับคองกันไปจนกว่าอาการจะดีขึ้นค่ะ และหากร่างกายเกิดภูมิต้านทานมากพอ ก็สามารถหายเองได้ค่ะ

นาทีนี้คงไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่า ‘ ไวรัสอู่ฮั่น ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘ ไวรัสโคโรนา ( Novel Coronavirus 2019 ) ’ อีกแล้ว

การป้องกันไวรัส Covid-19 (ไวรัสอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรนา) เบื้องต้น

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หรือพื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่น โรงหนัง โรงพยาบาล สนามบิน ฯลฯ
  • หากมีความจำเป็นต้องไปสถานที่แออัด ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย ( หน้ากากรุ่น N95 ) และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับคนที่มีอาการไอ จามค่ะ
  • ล้างมือบ่อยๆ เพราะในแต่ละวันมือของเราสัมผัสอะไรต่อมิอะไรมากมาย โดยไม่รู้ว่าติดเชื้อโรคอะไรมาหรือเปล่า การล้างมือหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ และทุกครั้งก่อนทานอาหาร จะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อได้ค่ะ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ที่ป่วย หรือตาย อีกทั้งควรเลี่ยงการไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต ซึ่งเป็นแหล่งรวมสัตว์จำนวนมาก ( อันเนื่องมาจากไวรัสโคโรนานั้น เริ่มต้นมาจากการแพร่กระจายจากสัตว์สู่คน ) ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงไว้ก่อนค่ะ
  • ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อนอาหาร หลอดดูดน้ำ ผ้าเช็ดหน้า เป็นต้นค่ะ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปรุงสุกใหม่ๆ ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หากเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือต่างจังหวัดภายใน 14 วัน ไม่ว่าพื้นที่ที่ไปมาจะมีเชื้อระบาดหรือไม่ก็ตาม และเริ่มมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หรือท้องเสีย ควรรีบเดินทางไปโรงพยาบาล พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ
  • หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422 ค่ะ

ข่าวเกี่ยวกับการระบาด หรือแม้กระทั่งยอดผู้ติดเชื้อ มักจะตามหลังสถานการณ์จริงอยู่พอสมควรค่ะ แต่ถึงแม้สถานการณ์จริงจะล่วงหน้าไปไกลแค่ไหน แอดมินก็อยากให้เราทุกคนรับมือกับสถานการณ์กันอย่างมีสติ เพราะในสภาวะแบบนี้ ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่า ‘ ความกลัว ’ ของคนเราแล้วค่ะ หากเราตื่นตระหนก หวาดระแวงมากจนเกินไป ย่อมจะทำให้เราขาดสติในการเสพข้อมูลข่าวสารได้ค่ะ

และหากท่านสนใจบทความ และบริการอื่นๆ ของเราสามารถอ่านได้ที่นี่ค่ะ

สุดท้ายนี้ หากสนใจข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์ สามารถเข้าไปรับชมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับของคลินิกเราได้ตามช่องทางดังนี้ค่ะ  Website , Facebook Page , Youtube 

DoctorMekClinic-Button-Share

 

เว็บไซด์ doctormekclinic.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซด์เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะของใคร ของผู้ใช้งาน

บันทึก