แอบคุณสา(มี) มาทำสวย ฉีดฟิลเลอร์ใช้เวลานานไหม ??
วันนี้ Doctor Mek Clinic จะมาตอบ [คำถาม] ที่ทางบ้านถามกันมากๆ อีกคำหนึ่งค่ะ
นั่นคือ ทำสวย ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กันนะ ถ้าแอบมาฉีดฟิลเลอร์ก่อนไปรับลูกที่โรงเรียนจะทันไหมเนี๊ย ??
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงทุกคนอยากสวย อยากดูดี และเรื่องความสวยความงาม ก็เป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคน ต้องให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก แต่ด้วยสมัยนี้ ชีวิตที่เร่งรีบแข่งกับเวลาในปัจจุบัน ความไปถึงความเครียด แรงกดดันในการทำงาน และอะไรต่อมิอะไร หลายต่อหลายอย่าง ทำให้หลายๆ คนดูแลตัวเองน้อยลง บางคนถึงมองข้ามการดูแลตัวเองไปเลยทีเดียว
เผลอแปปเดียว รู้ตัวอีกทีก็โทรม เป็นซอมบี้ ไม่ก็หมีแพนด้าไปซะแล้ว แถมปล่อยไว้ยิ่งแย่ลงกว่าเดิมอีก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาริ้วรอยก่อนวัย ตอบร่องแก้ม รอบดวงตาลึก จนถูกเพื่อนแซวว่ารอยตีนกาถามหาแล้ว
คงถึงเวลาที่ต้องหันมาใส่ใจดูแลตัวเองแล้วล่ะค่ะ เพื่อนแนะนำให้ลองออกกำลังกาย พักผ่อนเยอะ จริงๆ ก็อยากทำอย่างที่เพื่อนแนะนำนะคะ แต่ก็ไม่มีเวลา คือแบบไม่ไหวแล้วค่ะ ขอระบายหน่อยเถอะค่ะ มันแน่นอก มันอึดอัด อึดอัด อึดอัด วันๆ ทำแต่งาน !! ทำงาน!! ทำงาน!! แล้วก็ทำงาน!! แทบไม่มีเวลาให้ตัวเอง แค่นั้นไม่พอนะคะ พอรู้ตัวอีกทีสภาพแทบไม่ต่างอะไรกับ หมีแพนด้า สภาพหน้าตอนนี้แบบว่าดูโทรมมาก แบบนี้เรทติ้งตรงหมดนะสิ
ร้องไห้หนักมากค่ะ แถมยิ่งร้องหน้าก็ยิ่งโทรมม้ายยยยยยยยยยย ไปทำศัลยกรรมก็เจ็บนาน แถมต้องพักฟื้นอีก พอลองซื้อ ครีมบำรุงผิวมาใช้ ก็ยังต้องเจอกับปัญหาราคาที่แพงหูฉี่ แถมใช้ไปตั้งหลายเดือน หลายหลอดก็ไม่เห็นผลสักที ฮื่อออออ T_T
[คำถามสุดฮิต!!]
” ฉีดฟิลเลอร์ใช้เวลานานไหม ?? “
” มีไหมคะ แบบว่า หลับไปปุ๊บตื่นมาอีกทีสวยเลย ? “
ถามว่ามีไหมจริงๆ ก็มีนะคะ ไม่ได้ฝัน ไม่ได้มั่ว ไม่ได้มโน จริงๆ คะ แถมไม่ต้องหลับด้วย สวยทันใจเลยแหละ จะบอกให้ แบบว่า สวยทันใจใน 3 ชม.
3 ชม. ที่ว่าจะทำอะไรได้บ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ
อย่างแรกฉีดฟิลเลอร์หน้าเด็ก ค่ะ
ฟิลเลอร์เองนั้นเป็นสารจำพวก Hyaluronic acid ที่สกัดจากธรรมชาติโดยผ่านกรรมวิธีคัดแยกแบบพิเศษ ทำให้มีความปลอดภัยต่อผิวมาก จึงไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบการแพ้ก่อนรับการฉีดค่ะ และโอกาสการเกิดการแพ้น้อยมากๆๆ ซึ่งในวิจัยพบว่าอาการแพ้อาจเกิดจากการแพ้ยาชา ซึ่งถ้าเคยฉีดยาตอนถอนฟัน หรือยาชาตอนทำแผลมาแล้วไม่เกิดอาการแพ้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะเป็นยาชาชนิดเดียวกันเลย
Hyaluronic Acid คืออะไร ?
Hyaluronic Acid หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า Hyaluron นั่นแหละ แฮร่คุ้นหู ใช่ไหมล้าา ก็ที่เรามักได้ยินในเครื่องสำอางค์ญี่ปุ่นไงว่ามีส่วนผสมของ Hyaluron อะไรงี้
Hyaluronic Acid คือ กรดที่ร่างกายของเราผลิตขึ้นมาเองได้ มีอยู่ทั่วไปตามร่างกาย และโดยเฉพาะบริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างอวัยวะและเซลล์ เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี และเพิ่มความยืดหยุ่น เช่น บริเวณหัวเข่า ถ้าขาดสารตัวนี้ จะมีผลทำให้การเดินจะเจ็บปวดเพราะว่าไม่มีตัวช่วยลดการเสียดสีระหว่างกระดูก ข้อต่อนั่นเอง นอกจากนี้ในวงการแพทย์ถูกใช้นำมาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างกว้างขวางทั้งร่างกายและผิวพรรณค่ะ
โดยขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์ และระยะเวลาในการฉีด มีทั้งหมดมีดังนี้ค่ะ
อันดับแรก คุณหมอจะทำให้ ประเมิน และวิเคราะห์ใบหน้าในบริเวณต่างๆ ที่คนไข้ต้องการเติม พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับชนิดของและ ปริมานของฟิลเลอร์ที่ต้องใช้ ขั้นตอนนี้ ใช้เวลาประมาน 15 – 30 นาที ค่ะ
- หากกรณีคนไข้มีอาการแพ้ยาชา ควรแจ้งคุณหมอก่อนค่ะ
ต่อมา ก่อนอื่นคุณหมอ จะทำการแปะยาชาเพื่อป้องกันอาการช้ำ หลังทำการฉีด ใช้เวลาประมาน 30 นาที – 1 ชม เพื่อให้ยาชาออกออกฤทธิ์
หลังจากนั้น คุณหมอจะทำการ ฉีดยาชา ทำการบล็อคเส้นประสาท บนใบหน้า เพื่อให้ช่วงที่ทำหัตถการคนไข้รู้สึกสบายมากที่สุดคะ โดยฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 5-15 นาที ค่ะ
ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อยาชาออกออกฤทธิ์ แล้วคุณหมอจะทำการ ฉีดฟิลเลอร์ เข้าสู่ใบหน้าในบริเวณที่ต้องการเติมค่ะ โดยจะฉีดในชั้นผิวที่ต่างกันไปค่ะ ในชั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาน 15 นาที – 1 ชม ขึ้นกับตำแหน่งและปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ค่ะ.
เมโสหน้าใส (Meso Therapy)
เมโสหน้าใส คือการทำทรีตเมนต์สำหรับรักษาปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ฝ้า กระ รวมไปถึงจุดด่างดำต่างๆ บนใบหน้า โดยใช้เข็มขนาดเล็กแทงเข้าไปในผิวหนังชั้นกลาง (ที่เรียกว่า Meso) แล้วทำการฉีดสารจำพวก มัลติวิตามิน แอนติออกซิเดนท์ หรือสารบำรุงผิวตัวอื่น ๆ ไปยังชั้นผิวหนังด้านใน
ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นส่วนผสมของครีมต่างๆ ที่ดูดซึมยาก และมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิวให้เต่งตึงคล้ายผิวแอปเปิ้ลนั่นเองค่ะ
ข้อดีของการฉีดเมโสหน้าใส
- หลังรักษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- เห็นผลตั้งครั้งแรกที่ทำ เพื่อให้เห็นผลมากขึ้นควรรักษาให้ครบคอร์สที่แพทย์แนะนำ
- ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น
- ไม่ทำให้ผิวบาง
โดยระยะเวลาในการรักษาด้วย เมโสหน้าใส
ประมาณ 45 – 60 นาที (รวมแปะยาชา 30 นาทีแล้ว)
HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound
คือการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ส่งผลให้ผิวหนังในชั้น SMAS เกิดการหดตัว และสร้างคอลลาเจน พร้อมทั้งสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ส่งผลทำให้ผิวยกกระชับ และอ่อนเยาว์ขึ้นนั่นเองค่ะ
ข้อดีของการทำ HIFU
- ราคาไม่สูง สามารถทำได้บ่อย
- หลังการทำ HIFU ยังสามารถทำการรักษาด้วยวิธีอื่นต่อได้
- ไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นนั่นเอง
ข้อเสียของการทำ HIFU
- หลังการทำ HIFU อาจมีรอยแดงหลังทำ ซึ่งจะพบได้กับคนไข้บางรายเท่านั้น และสามารถหายได้เองภายใน 1 – 2 ชั่วโมงค่ะ
การเตรียมตัวก่อนทำ HIFU
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ระยะเวลา สำหรับทำ HIFU
ประมาณ 30 – 50 นาที
Botox
Botox หรือ Botulinum toxin A เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” (Clostridium botulinum) ซึ่งมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ซึ่งในวงการแพทย์ มักนำมาใช้ในการรักษา โรคตาเหล่ ตาเข เป็นต้นค่ะ ส่วนในด้านการเสริมความงามนั้น นิยมใช้เพื่อใช้ในการริ้วรอยต่างๆ และยกกระชับผิวค่ะ
หากได้รับสารชนิดนี้หากได้รับมากเกินไป อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ หรือเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้
หลักการทำงานของ Botox
หลังจากทำการฉีด Botox ไปในบริเวณที่ต้องการแล้ว Botox จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ส่งผลทำให้เซลล์ประสาทบริเวณดังกล่าวไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ทำการฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว และเกิดการคลายตัวค่ะ
สำหรับริ้วรอยตื้นจะเห็นผลภายใน 2 – 3 วัน หลังฉีด ส่วนกรณีรอยลึกจะเห็นผลภายใน 7 – 14 วันค่ะ
ส่วนระยะเวลาการส่งผลนั้นจะอยู่ที่ 6 – 8 เดือนค่ะ
ข้อควรระวังการใช้ Botox
หลังการฉีด Botox ไม่ควรนอนราบภายใน 4 ชั่วโมง และไม่ควรบีบนวดในบริเวณที่ทำการฉีด เพราะจะทำให้ Botox กระจายไหลไปตามจุดต่างๆ ที่ไม่ได้ทำการฉีด ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์อย่าง เช่น หน้าผากตึง หรือหางคิ้วชี้ขึ้นมากไป เป็นต้นค่ะ
ก่อนอื่นคุณหมอ จะทำการแปะยาชาเพื่อป้องกันอาการช้ำ หลังทำการฉีด ใช้เวลาประมาน 30 นาที – 1 ชม เพื่อให้ยาชาออกออกฤทธิ์
ส่วนระยะเวลาในการ ฉีดนั้น ประมาน 10 -15 นาที ค่ะ
RF Laser
RF (Radio Frequency) คือ เทคโนโลยีด้านผิวพรรณที่ช่วยยกกระชับผิว ซึ่งได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และองค์การอาหาร และยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนนาดา กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศแถบเอเชีย ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย สามารถช่วยปรับผิวให้กระชับ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งการทำศัลยกรรม
หลักการทำงานของ RF
โดยการปล่อยคลื่นไฟฟ้าอ่อนในรูปของคลื่นวิทยุในช่วงความถี่ 0.3 – 0.5 MHz (เมกะเฮริตซ์) ที่ปลอดภัย พลังงานจากกระแสไฟในช่วงคลื่นความถี่วิทยุสามารถผ่านทะลุผิว ชั้นบนเพื่อไปเพิ่มอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นลึกและประสานไปกับการนวดพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะทำให้เกิดการไหลเวียน กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนรูปของพลังงานจากภายใน ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 3°C – 5°C
โดยการทำ RF นั้นจะส่งผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณที่ได้รับการรักษาดีขึ้น หลอดเลือดขยายตัว ช่วยให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีขึ้นค่ะ
ข้อดีของการทำ RF ยกกระชับหน้า
- RF ช่วยในเรื่องการกระชับสัดส่วน ทำการรักษาเนื่องจาก RF จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี และช่วยให้เกิดการหดตัว รัดตัว ของกล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อ บริเวณที่รับการรักษา ทำให้ผิวหนังกระชับขั้นนั่นเอง
- RF ช่วยขจัดไขมัน สลายไขมัน เซลลูไลท์แล ะไขมันที่สะสมอยู่ตามต้นแขน ต้นขา เอว สะโพก หน้าท้อง ให้ลดลง
ผลที่ได้จากการทำ RF เครื่องยกกระชับหน้า
- ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายขับของเสียออกมาในรูปของเหงื่อ และน้ำเหลือง
- ช่วยเร่งให้เกิดการเผาผลาญของไขมันในร่างกาย
- ช่วยขจัดไขมัน และเซลลูไลท์
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคลอลาเจนใหม่ส่งผลให้บริเวณที่ทำ RF ผิวแรียบเนียนและกระชับขึ้น
การทำยกกระชับหน้าด้วยเลเซอร์ ใช้เวลาโดยเฉลี่ยเพียง 30 นาที – 1 ชม. เท่านั้นค่ะ
ฉีดวิตามินผิว
เทรนด์ใหม่ในยุคที่เรื่องความสวยความงามกำลังกลายเป็นสิ่งที่สาวๆ ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ความขาวใส และดูมีออร่า คือเป้าหมายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะ ว่าร่างกายของเรานั้น ไม่สามารถสร้างวิตามินซีขึ้นมาได้เอง ทำให้จำเป็นต้องได้รับจากภายนอก โดยหลักๆ แล้วจะสามารถรับเข้าสู้ร่างกายผ่านการกินอาหารค่ะ แต่ในยุคปัจจุบันในสังคมที่เร่งรีบ ทำให้พฤติกรรมในการกินอาหารของเราเปลี่ยนไป คนส่วนใหญ่นิยมกินอาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง รวมไปถึงอาหารจาน ด่วนมากขึ้น ซึ่งอาหารจำพวกนี้เองที่เป็นสาเหตุทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีน้อยลง เนื่องจากวิตามินซี มักจะมีอยู่ในผัก และผลไม้เท่านั้น อีกทั้งคุณสมบัติของวิตามินซีจะสูญสลายได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับออกซิเจนอีกด้วยค่ะ
การฉีดวิตามินซี
คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า ถ้าฉีดวิตามินซี แล้วผิวของเราจะขาวขึ้น ซึ่งต้องขอชี้แจงก่อนนะคะว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการฉีดวิตามินซีเข้าสู่ผิวนั้น ทำให้ผิวของเราอ่อนนุ่ม เรียบเนียน ขึ้นค่ะ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผิวกระจ่างใส คือการฉีดสารกลูต้าไธโอนค่ะ เพราะ สารชนิดนี้จะเข้าเข้าบังคับให้เซลล์ผิวของเราทำการผลิตเม็ดสีน้อยลง จึงส่งผลให้ผิวดูขาวขึ้นนั่นเองค่ะ
ซึ่งในปัจจุบัน คลีนิคส่วนใหญ่จะฉีดสารกลูต้าไธโอน และฉีดวิตามินซี ไปพร้อมกัน เพื่อรวมข้อดีของทั้งสองอย่างไว้ด้วยกัน ทำให้ผิวที่ฉีดสารทั้งสองชนิด ดูขาวใส มีน้ำมีนวลเป็นธรรมชาติค่ะ
ข้อดีของการฉีดผิวขาว
- ทำให้ผิวขาวขึ้น ดูสุขภาพดี
- สารกลูต้าไธโอน เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่พอดี จะเป็นส่วนช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ที่เป็นส่วนที่ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม
ข้อเสียของการฉีดผิวขาว
- ต้องฉีดสารผิวขาวเป็นประจำ เมื่อหยุดฉีดผิวขาว สีผิวจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
- ผิวจะแพ้ง่าย เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง(กรณี ฉีดสารกลูต้าไธโอนร่วมด้วย) เนื่องจากสารกลูต้าไธโอน จะทำให้เม็ดเมลานินดูจางลงซึ้งเม็ดเมลานินที่จางลง เป็นส่วนที่ปกป้องผิวจากรังสีหรือสิ่งสกปกต่างๆ ทำให้ผิวหนังได้รับแสงแดดมากขึ้น จนทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
- ความเสี่ยงต่างๆ ระหว่างการฉีดผิวขาว เช่น สารผิวขาวที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายไม่มีคุณภาพ ผู้ฉีดสารผิวขาวไม่ใช้แพทย์ที่ชำนาญ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้
วิธีและขั้นตอนการฉีดฉีดวิตามิน
คุณหมอจะการฉีดวิตามิน เข้าทางเส้นเลือดโดยตรงค่ะ ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ค่ะ
ร้อยไหม
ร้อยไหม จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเสริมความงาม อีกแบบหนึ่งที่ฮอตมากๆ ในปัจจุบัน จากหลายๆ ปัจจัยเช่น ด้านค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก ระยะเวลาการพักฟื้นที่น้อย ซึ่ง ผลลัพท์ที่ได้จากการร้อยไหมนั้น สามารถช่วยผิวหน้าของเรายกกระชับเต่งตึงขึ้น ส่งผลให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นนั่นค่ะ
การร้อยไหม คือ อะไร
การร้อยไหม คือ เทคนิคด้านเสริมความงานประเภทหนึ่ง ที่ใช้ ไหมละลาย ประเภท PDO ( polydioxanone) โดยจะสามารถสลายตัวได้เอง ด้วยปฏิกิริยาที่เรียกว่า Hydrolysis ในร่างกาย โดยแพทย์จะทำนำไหมละลายดังกล่าว ร้อยเกี่ยวเข้ากับกล้ามเนื้อผิวบริเวณที่ทำการรักษา เพื่อช่วยพยุงผิวหนัง กระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ทำให้เกิดการดึงยกผิวหน้า และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต มาเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นส่งผลให้ผิวยกกระชับขึ้นนั่นเองค่ะ
ข้อดีของการร้อยไหม
- เห็นผลทันทีหลังทำ
- ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย
- ทำให้รูปใบหน้าเรียวเป็นรูปทรงวีเชฟ
- ทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้นในทันที
- ทำให้ผิวเต่งตึงยกกระชับมากขึ้น และได้ผลต่อเนื่องนาน
ข้อเสียของการร้อยไหม
- อาจมีอาการบวมแดง และรอยช้ำตามแนวการสอดไหม
- หากไหมที่ใช้ไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้ไหมไม่ละลาย และจับตัวกันเป็นก้อน หรือมีหนองขึ้นตามไหม
สรุปแล้ว
ไม่ว่าจะแว๊บเข้ามาทำสวยหลังส่งลูกไปโรงเรียน หรือ แว๊บเข้ามาทำสวยก่อนไปรับลูกก็ทัน ชิลๆ เลยค่ะ เร็วชนิดที่ว่าคุณพ่อบ้านใจกล้าทั้งหลาย จับไม่ได้แน่นอน
หรือ สาวๆ คนไหนอยากทำสวยเซอร์ไพร์แฟน ให้ตกใจเล่นก็ทำได้ไม่มีปัญหา สวยทันไม่เกิน 3 ชม. แน่นอนค่ะ
Doctor Mek Clinic ทางลัดสู่ความงาม สวยทันใจ ไม่มโน แน่นอนค่ะ
อ่านบทความอื่นๆ ของเราได้ที่ ➥คลิ๊กเลย!
และหากท่านสนใจบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ บริการต่างๆ ของคลินิกสามารถอ่านได้ที่นี่ค่ะ
- แฉหมดเปลือก ฟิลเลอร์คาง Vs ศัลยกรรมคาง ข้อดีข้อเสีย ที่ต้องรู้
- ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง
- ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่
Doctor Mek Clinic ของเราขอการันตีด้วย รางวัลยอดฉีดฟิลเลอร์มากที่สุดอันดับ 1 ของประเทศไทยในปี 2018 ปี
และกล้าการันตี ด้วย “ รีวิวจากคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการของเรา ” ที่มาบอกเล่าประสบการณ์ความประทับใจจากการฉีดฟิลเลอร์ของเราเยอะมากๆ(คลิก! ดูรีวิว)