โบทูลินั่มท็อกซินในปัจจุบันมีการพัฒนาออกมาหลายยี่ห้อ ซึ่งโบเจนใหม่ หรือ Second Generation ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ นั่นก็คือ โบท็อกเยอรมัน Xeomin โบเยอรมัน ที่มีความบริสุทธิ์ 100% แตกต่างจากโบรุ่นเก่า ด้วยเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะที่ช่วยดึงเอาสิ่งแปลกปลอมออกจนหมดเหลือไว้เพียงส่วนที่พร้อมออกฤทธิ์เท่านั้น ส่งผลให้กระจายตัวได้ดี เห็นผลเร็วขึ้น ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่เกิดสารตกค้างในร่างกายจึงช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะดื้อโบในอนาคต เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมดูแลตัวเองที่ทันสมัยเป็นทางเลือกที่ถูกเลือกใช้งานอย่างแพร่หลาย ช่วยดูแลเรื่องความสวยความงามที่เกี่ยวกับผิวและรูปหน้า ซึ่งถูกพูดถึงและใช้งานกันมากในวงกว้าง เพราะสามารถที่จะช่วยเรื่องของความตึง ลดริ้วรอย ช่วยคลายกล้ามเนื้อทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น เป็นต้น เป็นการดูแลตัวเองที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทำแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งตำแหน่งหรือขั้นตอนการทำหัตถการจะขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมิน วิเคราะห์ และออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล เพื่อให้ตรงกับความต้องการและได้ผลลัพธ์ที่รับกับใบหน้าของคนไข้แต่ละคนมากที่สุด
เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน
Toggle
Xeomin โบท็อกเยอรมัน คืออะไร?
คือ Second Genaration ของโบทูลินั่มท็อกซิน คุณภาพระดับพรีเมียม จากประเทศเยอรมนี ด้วยการคิดค้นและพัฒนาต่อยอดจนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีโมเลกุลเล็กสามารถตรงเข้าจัดการปัญหาได้อย่างเฉพาะเจาะจงแม่นยำ มีความบริสุทธิ์สูง ไม่มีคอมเพล็กซ์โปรตีนต้นตอของสารตกค้างในร่างกาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้ขยับหรือแสดงสีหน้า อารมณ์ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลังทำไม่หนักหน้า ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการดื้อโบในอนาคต ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยจาก US FDA และ Thai FDA โดยสามารถเปรียบเทียบ Xeomin กับ โบแบบเดิม เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นได้ดังนี้
โบทูลินั่มท็อกซินแบบทั่วไป – โบในแต่ละขวดมี 2 ส่วนประกอบด้วยกันนั่นก็คือ complex protein ที่ห่อหุ้มตัว Neurotoxin เอาไว้ ซึ่งตัวคอมเพล็กซ์โปรตีน ไม่ได้มีหน้าที่หรือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ให้ดีขึ้นแต่อย่างใด เปรียบเสมือนข้าวที่มีเปลือกหุ้ม ทำให้เมื่อเข้าสู่ร่างกายเปลือกนั้นจะตกค้างในร่างกายนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเกิดโอกาสดื้อโบได้มากขึ้น
Xeomin โบเยอรมันแท้ – เป็นโบที่มีความบริสุทธิ์สูง เพราะมีเพียง active neurotoxin 100 % ที่พร้อมออกฤทธิ์เท่านั้น เปรียบเสมือนข้าวที่ไม่มีเปลือกหุ้มพร้อมทานได้เลย จึงไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างซึ่งเป็นต้นตอของการเกิดอาการดื้อโบตามมา
อะไรคือโบเจนใหม่? มีข้อดีอย่างไร?
อย่างที่ทราบไปแล้วว่า Xeomin ดึงเอาส่วนที่ไม่จำเป็นกับการออกฤทธิ์อย่างเช่นเปลือกหุ้มออกจนหมด จึงทำให้มีความบริสุทธิ์สูงและมีโมเลกุลที่เล็กน้ำหนักเบาจึงสามารถกระจายตัวได้ดี ฉีดแล้วหน้าไม่แข็ง หน้าไม่ตึงเกินไป เวลาที่ต้องแสดงสีหน้า อารมณ์ จึงดูเป็นธรรมชาติ ทั้งยังลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอาการดื้อโบในอนาคตได้อีกด้วย ไม่ก่อนให้เกิดปัญหาเรื้อรังในระยะยาว นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นอีกหลายอย่างด้วยกันที่บอกเลยว่านี่แหล่ะคือ Second Generation หรือโบเจนใหม่ ว้าวแน่นอน
1. ผลิตขึ้นโดย Xtract Technology
ถือได้ว่าเป็นโบเจนใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์แก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุม โดยเทคโนโลยีนี้นั้นช่วยให้โบที่ได้มีคุณภาพสูง มีความบริสุทธิ์มากกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ ทำให้โฐมีน้ำหนักเบา กระจายตัวได้ดีกว่า
2. ปราศจากสิ่งแปลกปลอม 0% Impurities
โดยทั่วไปแล้วโบทูลินั่มท็อกซินที่เป็นรุ่นแรกจะมีคอมเพล็กซิ่งโปรตีนหรือสิ่งแปลกปลอมปนอยู่ทำให้ไม่บริสุทธิ์ แต่โบเจนใหม่ จะไม่มีสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นเลย ทำให้ได้โฐที่มีความบริสุทธิ์ 100% ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US FDA และ Thai FDA
3. ลดการเกิดภาวะดื้อโบ
ในปัจจุบันการใช้โบเจนใหม่ ยังไม่พบผู้ที่เกิดอาการดื้อโบแต่อย่างใด เพราะถูกพัฒนามาอย่างเหมาะสมสำหรับการใช้เพื่อดูแลเรื่องของความงาม สกัดเอาสิ่งแปลกปลอมออกจนหมดเหลือไว้เพียง active neurotoxin ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้ไม่เกิดสารตกค้างในร่างกายที่นำไปสู่อาการดื้อโบในอนาคต
4. เห็นผลลัพธ์เร็วและผลลัพธ์อยู่ได้นาน
โบทั่วไปหรือโบรุ่นแรกปกติจะเริ่มเห็นผลใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่สำหรับโบเยอรมัน โบเจนใหม่นั้น สามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ภายใน 3 วัน (ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) และด้วยความบริสุทธิ์ของโบที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมจึงทำให้คงผลลัพธ์ได้นานยิ่งขึ้น เป็นธรรมชาติ และปลอดภัย
ฉีดโบช่วยอะไร? และฉีดส่วนไหนได้บ้าง?
อย่างที่ทราบกันดีว่าโบทูลินั่มท็อกซิน เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้ว โบจะเริ่มออกฤทธิ์ที่ส่วนปลายของเซลล์ประสาทเพื่อเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ถูกฉีดให้เกิดอาการคลายตัวอยู่ในภาวะอัมพาตชั่วคราว ผิวบริเวณนั้นจึงเรียบเนียน ผิวตึงมากขึ้น ใบหน้าเรียวเข้ารูป ลดปัญหารอยตีนกา ลดริ้วรอย ซึ่งบริเวณที่สามารถฉีดโบได้นั้นมีด้วยกันหลายตำแหน่ง ดังนี้
โบกราม – ช่วยให้กรามดูเล็กลง ไม่ดูเหลี่ยมหรือกรามใหญ่มากเกินไป
โบหน้าเรียว – เป็นฉีดโบเพื่อปรับให้หน้าดูเรียวมากขึ้น เข้ารูปมากยิ่งขึ้น
โบหน้าผาก – จัดการปัญหาริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ปรับผิวให้เรียบตึงมากขึ้น
โบใต้ตา – ช่วยลดรอยตีนกา ลดริ้วรอยบริเวณใต้ตา ให้ผิวบริเวณนั้นตึง เรียบเนียนมากขึ้น
โบโหนกแก้ม – ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้มให้คลายตัวดูเล็กลง มีความสมส่วนมากขึ้น
โบปีกจมูก – จัดทรงให้ปีกจมูกไม่บาน ดูเล็กลงสมส่วนเข้ารูปมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
โบรักแร้ – เข้าไปช่วยลดกระบวนการผลิตเหงื่อ ลดกลิ่นตัวให้น้อยลง
โบคิ้ว – เป็นการช่วยปรับมุมและระดับของคิ้วให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสม ช่วยให้ใบหน้าดูดีขึ้น
โบหว่างคิ้ว – ลดรอยย่นบริเวณระหว่างคิ้วให้เรียบเนียนมากขึ้น
โบรูขุมขน – ผิวเรียบเนียน ผิวกระชับรูขุมขนดูเล็กลง
โบน่อง – แก้ปัญหาน่องปูด น่องแข็ง ให้กลับมานิ่มขึ้น น่องดูเล็กลง
โบลดปวด – สามารถฉีดเพื่อช่วยลดอาการปวด คอ บ่า ไหล่ ที่เกิดขึ้นจากอาการออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย
เลือก คลินิกฉีดโบ ที่ไหนดี?
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแล้ว แพทย์และคลินิกก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี มีความปลอดภัย แก้ไขได้ตรงจุด ไม่ใช่จะไปให้ใครฉีดก็ได้เพราะอาจจะนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงที่ตามมาได้ค่ะ โดยวิธีการเลือกคลินิกที่จะเข้าไปรับบริการฉีดโบนั้นเราสามารถเลือกได้ดังนี้ค่ะ
แพทย์ผู้ทำการรักษา ต้องมีประสบการณ์สูงและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จึงจะสามารถเข้าใจการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดี มีความรู้ในเรื่องของกายวิภาคใบหน้าอย่างละเอียด ทำให้วางตำแหน่งของโบได้อย่างแม่นยำ แก้ไขได้ตรงจุด เลือกปริมาณและระยะเวลาที่ต้องฉีดได้อย่างถูกต้อง ทำให้หน้าไม่แข็ง ยิ้มได้เป็นปกติ แสดงอารมณ์และเคลื่อนไหวใบหน้าได้อย่างธรรมชาติ
คลินิกได้มาตรฐาน – ความน่าเชื่อถือของคลินิกก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องดูด้วยนะคะ ต้องเป็นคลินิกที่ได้รับใบอนุญาติอย่างถูกต้อง มีมาตรฐาน มีคุณภาพ สะอาดปลอดภัย
ผลิตภัณฑ์ของแท้ – โบที่ใช้ต้องเป็นของแท้ เชื่อถือได้ ตรวจสอบได้ สามารถขอดูได้ตั้งแต่ขั้นตอนแกะกล่อง สภาพผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งาน
รีวิวเยอะ – อีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น ด้วยการดูรีวิวค่ะ ยิ่งคลินิกไหนที่รีวิวทั้งภาพนิ่ง วีดีโอ หรือคอมเม้นท์ในโซเชียลมีเดียเยอะ ๆ ช่วยให้เราสามารถเห็นถึงฝีมือคุณหมอและผลลัพธ์หลังทำได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังได้รู้ถึงฟีดแบ็คความรู้สึกจากคนไข้จริงอีกด้วย หากมีไลฟ์ด้วยก็จะยิ่งดีค่ะเพราะเราจะได้เห็นแบบเรียลไทม์เลยค่ะว่าฝีมือและขั้นตอนการรักษาของคุณหมอเป็นอย่างไร
พนักงานผู้ดูแล – ต้องมีความเป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจในหัตถการเป็นอย่างดี เพื่อที่จะสามารถช่วยดูแลและให้คำแนะนำได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามผลหลังทำได้อย่างใกล้ชิด
ฉีดโบบ่อย ๆ ทำให้เกิดภาวะดื้อโบ จริงหรือ?
คงเคยได้ยินมาบ้างแล้วเรื่องภาวะดื้อโบ แต่อาจจะยังไม่เข้าใจมากพอ ทำให้มองว่าเป็นเรื่องไกลตัว และตัวเราก็ยังฉีดได้ปกติไม่เห็นเป็นอะไรเลย ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จากผลลัพธ์หลังการฉีดโบของเราค่ะ เช่น จากปกติที่เคยฉีดที่ 10 ยูนิต แล้วผลลัพธ์อยู่ 3 เดือน แต่ช่วงหลังการฉีดในปริมาณเท่าเดิมแต่ผลลัพธ์เริ่มอยู่ได้แค่ 1 – 2 เดือนเท่านั้น ทั้งยังเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้น้อยลงด้วย หากเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วบอกเลยว่าต้องรอกันหลายปีเลยกว่าจะกลับมาฉีดโบแล้วเห็นผล หรือบางรายถึงขั้นฉีดโบไม่เห็นผลไปตลอดชีวิตเลยก็มี ดังนั้นเราจึงต้องรีบดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ไปทำความรู้จักกับอาการนี้ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ โดยอาการนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น
• ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ทำการรักษามีไม่มาก เว้นระยะการฉีดผิดหรือฉีดไม่ถูกวิธีต่อไปเรื่อย ๆ จะส่งผลให้เห็นผลลัพธ์ได้น้อยลงหรือกลายเป็นฉีดแล้วไม่เห็นผลเลย นอกจากนั้นแพทย์ที่มีประสบการณ์ไม่มากพอยังเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาตาตก หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ได้อีกด้วย
• ใช้โบหิ้ว = โบปลอม ซึ่งเป็นโบทูลินั่มท็อกซินที่ไมได้มาตรฐาน การเก็บและการขนส่งไม่ถูกวิธี ทำให้ตัวยาไม่สมบูรณ์ เกิดเป็นปัญหาเรื้อรังในระยะยาว
วิธีตรวจสอบ โบเยอรมันแท้
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้นั้นคือสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี และไม่ทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังตามมาในอนาคต เราจึงนำวิธีการสังเกตและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ Xeomin โบเยอรมันแท้ รวบรวมมาไว้ในบทความนี้ด้วยค่ะ
1. สแกน QR Code ข้างกล่อง
• ขูดสติ๊กเกอร์ QR Code บริเวณข้างกล่องผลิตภัณฑ์
• แสกน QR CODE เพื่อตรวจสอบ
• หากเป็นของแท้ จะพบข้อมูลยืนยันผลิตภัณฑ์
2. ตรวจสอบคลินิกที่ใช้โบเยอรมันแท้ จาก www.merzclubthailand.com
3. เลข Batch No. ใต้กล่องต้องตรงกับใต้ขวด และแสดงเลขจดทะเบียนผลิตภัณฑ์
ตัวอย่าง – Reg. No. 1C 9/59(BF)
4. ขวดเป็นสุญญากาศเท่านั้น
รีวิวจากดาราชั้นนำของประเทศไทย
Doctor Mek Clinic คลินิกทีได้รับความไว้วางใจจากเหล่าดาราชั้นนำ celeb และคนดังในวงการบันเทิงมากมาย ที่เข้ามาทำแล้วประทับใจ ชื่นชอบผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจริง จึงทำให้บอกต่อกันปากต่อปากและบอกเล่าผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว ทำให้กลายเป็นคลินิกที่อยู่ในใจของใครหลายคนทำให้กลายเป็น ‘หมอของดารา’ เราจึงได้รวบรวมส่วนหนึ่งของรีวิวดารา มาไว้ในบทความนี้ด้วยค่ะ
รีวิวจากคนไข้จริง
เราได้รวบรวมส่วนหนึ่งของรีวิวคนไข้จริงที่เข้ามาฉีดโบ กับ Doctor Mek Clinic เอาไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ เพื่อเป็นอีกส่วนหนึ่งในข้อมูลประกอบการตัดสินใจ จะได้เห็นภาพของผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลังฉีดโบได้อย่างชัดเจน รวมถึงรีวิวบอกเล่าความประทับจากคนไข้จริงอีกด้วย
ราคาและโปรโมชั่น
สามารถทักเข้ามาสอบถามได้เลยค่ะ เพราะราคาและโปรโมชั่นจะมีควาทมแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงเวลา แต่บอกเลยว่ามีโปรดี โปรเด็ดให้เลือกเยอะ ซื้อเอาไว้ก่อนแล้วค่อยใช้ทีหลังก็ยังได้เลยค่ะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางแอดมินได้เลยนะคะ
ข้อควรรู้ก่อนเข้ารับบริการ
ก่อนที่จะเข้ามาฉีดโบการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาต่าง ๆ ระหว่างทำการรักษา และได้ผลลัพธ์หลังทำที่ดีที่สุดอีกด้วยค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
• งดอาหารเสริม วิตามิน หรือยาที่ส่งผลทำให้เลือดไม่หยุดไหล อาจจะส่งผลทำให้เกิดรอยฟกช้ำได้ง่ายหรือแผลหายช้าได้ค่ะ งดทานก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ที่จะเข้ามารับบริการ หากเป็นยาที่ต้องทานอย่างต่อเนื่องควรเข้าปรึกษาแพทย์ผู้รักษาโรคนั้น ๆ ก่อนเสมอ
• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะแอลกอฮอล์มีผลทำให้เลือดสูบฉีด อาจส่งผลทำให้เลือดออกมากกว่าปกติ เกิดปัญหารอยเขียวช้ำได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
• หากคนไข้มีประวัติแพ้ยาหรือมีโรคประจำตัวใด ๆ ต้องแจ้งให้แพทย์ผู้ทำการรักษาทราบก่อนรับบริการทุกครั้ง
การดูแลตัวเองหลังรับบริการฉีดโบ
• ไม่ควรประคบเย็นหลังฉีดภายใน 3 ชั่วโมงแรก เพราะจะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ดีเท่าที่ควร
• เพื่อให้ตัวยากระจายได้ดีและไม่กระจายไปผิดตำแหน่ง หลังฉีด 3 – 5 ชั่วโมงแรก ไม่ควรนอนคว่ำ ไม่นอนราบ ไม่ก้มหัวต่ำกว่าอก หากต้องนอนควรนอนในท่าที่หัวยกสูงหรือเป็นการนั่งพิงกำแพงจะดีกว่าค่ะ
• เนื่องจากความร้อนมีผลกับการสลายตัวได้เร็วของโบทูลินั่มท็อกซิน ดังนั้น 2 – 3 วันแรกหลังฉีด ไม่ควรเข้าซาวนา ตากแดดจัด ๆ ออกกำลังกายหนัก ๆ หรือทำกิจกรรมที่ต้องปะทะกับความร้อนโดยตรง
• งดการนวด คลึง บีบ หรือสัมผัสแรง ๆ บริเวณที่ฉีด ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด เพราะมีผลกับการกระจายตัวของตัวยา อาจทำให้ตัวยาไหลไปผิดตำแหน่ง จนนำไปสู่อาการที่ไม่พึงประสงค์ เช่น หางคิ้วชี้ไม่เท่ากัน ผิวตึงผิดปกติ ความสมดุลของใบหน้าไม่เท่ากัน เป็นต้น
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง บุหรี่ เพราะส่งผลกับการขยายตัวของหลอดเลือด ส่งผลทำให้รอยแผลหายช้ามากขึ้น เกิดรอยฟกช้ำหรือเลือดออกได้ง่ายขึ้น ขัดขวางการทำงานของตัวยา จึงต้องงดไปก่อนในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด
• หลีกเลี่ยงเรื่องของการแสดงอารมณ์ สีหน้า หรือขยับกล้ามเนื้อใบหน้ามากเกินไป เพราะจะเป็นต้นเหตุที่เร่งให้ริ้วรอยกลับมาเร็วและไวขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
นอกจากเนื้อหาสำคัญที่เกี่ยวกับเรื่องของการฉีดโบ เราได้นำเอาคำถามที่ถูกถามกันเข้ามาบ่อยมากรวบรวมไว้ในบทความนี้ด้วย น่าจะช่วยไขข้อข้องใจได้มากขึ้น แต่หากต้องการรายละเอียดหรือสอบถามเพิ่มเติมสามารถทักเข้ามาปรึกษาได้เลยนะคะ
การฉีดโบทูลินั่มท็อกซินอันตรายไหม?
เรื่องของอันตรายนั้นในตัวของโบทูลินั่มท็อกซินไม่มีปัญหาหรือผลข้างเคียงร้ายแรงค่ะ แต่ปัจจัยที่จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นนั้นมาจากประสบการณ์ของแพทย์ที่มีไม่มากพอจะทำให้คำนวนปริมาณตัวยาไม่เหมาะสม คำนวนตำแหน่งที่จะวางตัวยาไม่แม่นยำ ฉีดผิดวิธีซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นของปลอม จะทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมา ไม่ว่าจะเป็น อาการดื้อโบ หน้าเบี้ยว คางเบี้ยว หางคิ้วไม่เท่ากัน หน้าแข็ง แสดงสีหน้าไม่ได้ หน้าไม่เป็นธรรมชาติ เป็นต้น
โบ ฉีดบ่อยได้ไหม?
การฉีดโบซ้ำสามารถทำได้ค่ะ โดยต้องให้คุณหมอเป็นผู้ช่วยประเมินระยะเวลาการฉีดซ้ำให้นะคะ แต่โดยประมาณควรต้องเว้นระยะประมาณ 4 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ และร่างกายของแต่ละรายบุคคลด้วย ซึ่งหากฉีดบ่อยเกินไปมีโอกาสทำให้เกิดอาการดื้อโบได้ในอนาคตค่ะ
หลังทำกี่วันเห็นผล
โดยเฉลี่ยแล้วหลังฉีดโบผิวจะเริ่มตึงและเห็นผลใน 3 – 5 วัน และจะดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดด้วยค่ะ ถ้าเป็นริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลที่ประมาณ 1 สัปดาห์ หากเป็นกรามจะเริ่มเห็นผลประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ บริเวณน่องอาจจะต้องใช้เวลาเห็นผลประมาณ 1 – 2 เดือน (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล) เป็นต้น
ฉีดโบแล้วฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม?
ทำได้ค่ะ เพราะโบจะช่วยคลายกล้ามเนื้อทำให้ทำงานได้น้อยลง ผิวจึงตึงขึ้น ริ้วรอยลดลง ส่วนฟิลเลอร์นั้นจะเข้าไปเติมเต็มชั้นผิว ช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น จัดการปัญหาริ้วรอยที่เกิดขึ้นมาโดยไม่เกี่ยวกับการขยับกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูในส่วนที่มีปัญหาลึกโบ๋ให้กลับคืนความกระจ่างใส อิ่มฟู จึงสามารถทำควบคู่กันได้ค่ะ โดยต้องให้คุณหมอเป็นผู้ประเมินและออกแบบการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและรับกับใบหน้ามากที่สุด
ผลลัพธ์หลังทำอยู่ได้นานไหม?
คงสงสัยใช่ไหมคะว่าหลังฉีดแล้วผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน รวมถึงการดูแลหลังทำที่จะช่วยให้คงสภาพผลลัพธ์ได้นานขึ้น นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และเทคนิคของคุณหมอประกอบกันด้วย
หลังฉีดโบทำเลเซอร์ได้หรือเปล่า?
ทำได้ไม่มีปัญหาค่ะ เพียงแต่ว่าอาจจะต้องเว้นระยะให้พอดี โดยให้คุณหมอเป็นคนประเมินและคำนวนระยะเวลาให้นะคะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะหากทำเลเซอร์เร็วเกิดไปความร้อนอาจจะไปกระทบโบทูลินั่มท็อกซินที่ฉีดเข้าไปเกิดการสลายตัวเร็วขึ้นได้ค่ะ
ทำไมฉีดโบแล้วไม่เห็นผลเหมือนที่เคยทำ
ปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นกับหลายคนซึ่งก็ทำให้เกิดความสงสัยว่าทำไมถึงไม่เห็นผลเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่ทำมา ปัจจัยเกิดขึ้นได้จากหลายอย่าง เช่น โบปลอม แพทย์มีประสบการณ์น้อยจึงคำนวนปริมาณและฉีดผิดวิธีซ้ำเรื่อย ๆ นำไปสู่อาการดื้อโบ เป็นลักษณะของร่างกายที่สร้างภูมิต้านทานต่อสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในร่างกายทำให้หลังฉีดครั้งต่อไปจึงไม่เห็นผล หรือเห็นผลได้น้อยลงนั่นเอง
หากต้องการจัดการปัญหาของริ้วรอยและดูแลรูปหน้าให้เป๊ะมากขึ้นด้วยโบทูลินั่มท็อกซิน ผลิตภัณฑ์ โบท็อกเยอรมัน Xeomin เป็นอีกทางเลือกที่ดีมาก เพราะกระจายตัวได้ดี ลดโอกาสเสี่ยงของการดื้อโบได้ ช่วยให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ทั้งยังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้อย่างไร หรือตำแหน่งไหนที่มีปัญหาต้องแก้ไข สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Doctor Mek Clinic ปรึกษาปัญหาผิวพรรณและรูปหน้ากับอาจารย์หมอเมฆและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เลยนะคะ ปรึกษาฟรี! ทักเข้ามาได้เลยค่ะ