การฉีดสารเติมเต็มชนิด Hyaluronic acid ไปยังผิวบริเวณริมฝีปากเพื่อปรับแต่งรูปทรงให้ได้ตามที่เราต้องการ แต่บางคนพอได้ยินคำว่าเข็มก็เริ่มหน้าซีด กลัวว่าฉีดฟิลเลอร์ปากจะเจ็บไหม ในเมื่อใช้เข็มฉีดยาในการรักษา แปลว่ามันต้องเจ็บแน่ ๆ เลย ซึ่งเราต้องขอออกตัวก่อนว่าให้ทุกคนใจเย็น ๆ นะคะ เพราะถึงจะใช้เข็มในการฉีดฟิลเลอร์ แต่ที่แน่ ๆ คือมันไม่ได้เจ็บขนาดที่ทนไม่ไหวแน่นอน บางคนที่เคยทำก็บอกแค่รู้สึกตึง ๆ นิดหน่อย ในขณะที่บางคนก็บอกว่ารู้สึกเจ็บนิด ๆ
ถ้าอย่างนั้นเราควรเชื่อใครดีล่ะ? สรุปแล้วการฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม? เพราะอะไรบางคนฉีดแล้วเจ็บ ในขณะที่บางคนบอกว่าสบายมาก ไม่เจ็บเลย? มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราไปร่วมหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ
การฉีดสารเติมเต็มปากเจ็บไหม? มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บ?
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากทุกครั้ง คุณหมอจะมีการแปะยาชาชนิดครีมทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาทีอยู่แล้วค่ะ หลังจากนั้นก็จะฉีดยาชาซ้ำอีกครั้ง รอให้ยาชาออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ก่อนถึงค่อยฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ริมฝีปากตรงจุดที่ต้องการ อีกทั้งสารเติมเต็มบางรุ่นก็ผสมยาชาอยู่แล้วด้วย คนไข้จึงแทบจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บระหว่างฉีดเลย จะมีเพียงความรู้สึกเจ็บนิด ๆ ในขั้นตอนการฉีดยาชาเท่านั้น หลังฉีดสารเติมเต็มเสร็จก็จะเหลือทิ้งไว้เพียงอาการตึง ๆ ตรงริมฝีปาก ใช้เวลาเพียง 1-2 วันก็สามารถหายเป็นปกติ ใครที่กลัวเจ็บจึงหายห่วงได้เลยค่ะ
แต่ทั้งนี้ก็ยังมีปัจจัยเสริมอื่น ๆ ที่ทำให้ระดับความเจ็บของแต่ละคนไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับ
- ลักษณะผิวของแต่ละคน
คนประเภทผิวบาง ไวต่อความระคายเคือง รู้สึกเจ็บได้ง่าย คนกลุ่มนี้จะไวต่อความรู้สึกเจ็บได้มากกว่าคนที่ผิวไม่ค่อยเซนซิทีฟ นอกจากนี้ มันยังขึ้นอยู่กับการทนต่อความเจ็บของแต่ละคนด้วย บางคนทนได้มาก จึงรู้สึกว่าไม่เห็นจะเจ็บเลย ในขณะที่บางคนทนได้น้อย จึงรู้สึกเจ็บนิด ๆ นั่นเองค่ะ
- เทคนิคการฉีดของแพทย์
หรือที่เราเรียกกันภาษาชาวบ้านว่าหมอบางคนมือหนัก บางคนมือเบา ซึ่งเทคนิคการฉีดของแพทย์จะขึ้นอยู่กับการสั่งสมประสบการณ์เฉพาะตัวของแพทย์แต่ละคน ถ้าแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เขาก็จะเข้าใจว่าควรฉีดตรงจุดไหน และควรฉีดลึกเท่าไหร่ถึงจะพอดี อย่างคุณหมอบางคนที่เชี่ยวชาญมาก ๆ ก็จะจิ้มเข็มทีเดียวจบเลย ไม่มีการฉีดย้ำซ้ำ ๆ ให้ผิวช้ำกว่าเดิม ช่วยให้คนไข้รู้สึกเจ็บได้น้อยลง
- บริเวณที่ฉีด
ผิวหนังแต่ละส่วนของร่างกายมีการกระจายตัวของเส้นประสาทไม่เหมือนกัน หากเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทมาก ก็อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บได้ง่ายกว่าค่ะ อย่างบริเวณริมฝีปากถือเป็นจุดที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทต่าง ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก บริเวณนี้จึงเซนซิทีฟและรับความรู้สึกได้ค่อนข้างไว แพทย์จึงต้องระวังเป็นพิเศษ โดยบริเวณนี้คุณหมอมักจะเลือกสารเติมเต็มเนื้อนุ่มที่ผลิตมาสำหรับฉีดริมฝีปาก และฉีดด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ทำให้เราแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยค่ะ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
หากใครนึกภาพไม่ออก กังวลว่าคุณหมอจะทำอะไรกับริมฝีปากเราบ้าง เราจึงนำขั้นตอนคร่าว ๆ ของการฉีดฟิลเลอร์ปากมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพมากขึ้นค่ะ
- ขั้นตอนแรกคุณหมอจะประเมินรูปทรงปากเดิมของคนไข้แบบรายบุคคลก่อน จากนั้นจึงสอบถามสิ่งที่คนไข้ต้องการ เพื่อนำมาวางแผนการรักษาให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุด
- เจ้าหน้าที่คลินิกจะเข้ามาช่วยทำความสะอาดริมฝีปาก ลบลิปสติกออกเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนฉีด
- ทายาชาแบบครีมบริเวณริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ คุณหมอจึงค่อยฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่บริเวณริมฝีปากเพื่อปั้นรูปทรงตามที่คนไข้ต้องการ
เห็นไหมคะว่าไม่ยุ่งยากเลย ง่าย ๆ เพียงแค่สี่ขั้นตอนก็สามารถเปลี่ยนรูปปากของเราให้ได้ทรงสวยตามที่ต้องการแล้วค่ะ นับเป็นหัตถการที่มีความยุ่งยากน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ดีเกินคาด
โดยสรุปแล้ว ใครที่ยังกลัวว่า ฉีดฟิลเลอร์ปากจะเจ็บไหม ในจุดนี้ขอให้สบายใจได้เลยเพราะคุณหมอมีการแปะยาชาให้ทุกเคสก่อนทำอยู่แล้วค่ะ แถมเข็มที่ใช้ก็เล็กมาก ใช้เวลาฉีดเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเปลี่ยนแปลงให้ริมฝีปากของเราดูอวบอิ่มขึ้นทันตา ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานเฉลี่ย 8-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับบุคคล) และสามารถฉีดเติมได้เรื่อย ๆ เพื่อคงผลลัพธ์ไว้โดยไม่เป็นอันตราย เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่อยากมีปากสวยโดยไม่ต้องเจ็บตัวผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทั้งยังไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอีกด้วยค่ะ